ออกกําลังกายมือใหม่ ท่าลดพุง ที่น่าลอง รับรองได้ผลเร่งด่วน ถ้าคุณผู้ชายทำอย่างต่อเนื่อง เชื่อเลยว่าต้องมีหนุ่ม ๆ จำนวนไม่น้อยที่อาจคิดว่าการซิทอัพเป็นวิธีที่ช่วยลดพุงพร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องได้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ยังมีท่าบริหารหน้าท้องสำหรับลดพุงอีกมากมายที่ดีแพ้ท่าซิทอัพเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปดูกันว่ามีท่าอะไรบ้าง
ท่าลดพุง Side Plank สำหรับท่านี้ให้จัดท่าเตรียมด้วยการนอนตะแคงไปทางด้านขวาโดยใช้ศอกขวาดันตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมเกร็งลำตัวค้างไว้ราว ๆ 30 วินาที จึงเปลี่ยนข้าง นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความยากให้ร่างกายได้โดยการยกขาที่วางอยู่ด้านบนขึ้นและค้างไว้ พร้อมกับทำค้างไว้ราว ๆ 45-60 วินาทีก็ได้เช่นกัน
ท่าลดพุงเร่งด่วน Hanging Leg Lift สำหรับการเริ่มฝึกท่านี้นั้นให้โหนบาร์ไว้ วางมือทั้งสองข้างให้กว้างเท่าหัวไหล่และวางเท้าชิดกันที่สุด จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วให้ออกแรงดึงขาขึ้นจนเข่ามาอยู่ที่ระดับหน้าอก ค้างไว้สัก 1-2 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนลงช้า ๆ จึงนับเป็น 1 ครั้ง ควรทำให้ได้ 10-12 ครั้ง
ท่าลดพุงด่วน Split Leg-Arm Reach สำหรับการฝึกท่านี้ให้เริ่มด้วยท่าคลาน จากนั้นให้ค่อย ๆ ดันขาซ้ายไปด้านหลัง พร้อมเหยียดแขนขวาไปด้านหน้าจนสุดในจังหวะเดียวกัน แล้วค่อย ๆ กลับท่าเตรียม ฝึกสลับข้างให้ครบข้างละ 10 ครั้ง ทำประมาณ 4 เซ็ทด้วยกัน
ท่าออกกำลังกายลดพุง Front Barbell Squat สำหรับท่านี้เริ่มจากจับบาร์เบลพาดไหล่ที่ด้านหน้าไว้ โดยที่แขนทั้งสองข้างต้องไขว้กัน แล้ววางเท้าให้ห่างกันพอดี ๆ จากนั้นค่อย ๆ ย่อตัวลงไปในท่าสควอทและค่อย ๆ ลุกขึ้นกลับท่าเตรียม ให้นับเป็น 1 ครั้ง ควรฝึก 10 ครั้ง 4 เซ็ทด้วยกัน
การออกกำลังกายลดพุง ด้วยท่า Two-Arm Kettlebell Swing การเริ่มท่านี้นั้นให้เริ่มโดยการยืนวางเท้าให้ความกว้างพอดี ๆ พร้อมใช้มือทั้งสองข้างจับเคตเทิลเบลไว้ จากนั้นให้ย่อตัวลงแบบช้า ๆ และโน้มต้วไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อพร้อมแล้วก็ออกแรงแขนเหวี่ยงเคตเทิลเบลขึ้น และตอนเอาลงให้ทำเป็นจังหวะ ควรทำให้ครบ 10 ครั้ง 4เซ็ทด้วยกัน และถ้าใครไม่มีเคตเทิลเบล ก็ใช้ดัมเบลแทนได้เช่นกันโดยทำในลักษณะเดียวกันไปเลย
ลดพุง Split Squat สำหรับท่านี้นั้นเริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด โดยที่แขนทั้งสองข้างแนบลำตัวไว้ ต่อมาให้เลื่อนเท้าขวาไปด้านหลังประมาณครึ่งก้าวพร้อมใช้ปลายเท้าดันพื้นไว้ จากนั้นก็ย่อตัวลงช้า ๆ ในท่าสควอท ทำให้ได้ 10-12 ครั้ง แล้วสลับข้าง โดยสามารถถือดัมเบลเพื่อเพิ่มความยากให้ร่างกายได้
ลดพุงเร่งด่วน Mountain Climber สำหรับการฝึกท่า Mountain Climber นั้นให้เริ่มในท่าวิดพื้นก่อน แล้วค่อย ๆ ใช้ปลายเท้าดันพื้นไว้ จากนั้นให้ก้าวเท้าไปด้านหน้าพอประมาณ โดยให้เข่าอยู่ราว ๆ หน้าท้อง ทำสลับข้างไปเรื่อย ๆ แบบมีจังหวะ ให้ได้มากที่สุดภายในเวลา 1 นาที แล้วพัก 1 นาที แล้วทำต่ออีก 3 เซ็ทด้วยกัน
ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ ก่อนวิ่ง ระยะไกล เพิ่มความฟิตในการวิ่งให้ผู้ชาย ที่สายวิ่งต้องอ่าน เทรนด์ออกกำลังกายที่กำลังฮิตที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าการวิ่งมาราธอน คืออันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาหัดวิ่งกัน แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าควรวอร์มอัพเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการวิ่งอย่างไรดี ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมท่าสำหรับวอร์มอัพก่อนวิ่งมาแนะนำให้ได้รู้และนำไปใช้กันครับ
ท่าวอร์มก่อนวิ่ง Hip Flexor Stretch สำหรับท่านี้เริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด มือทั้งสองแนบลำตัวไว้ แล้วให้ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าพร้อมย่อตัวลงจนเข่าขวาสัมผัสพื้น ให้เอนตัวไปข้างหน้านิดหน่อย แล้วค้างไว้สัก15-20 วินาที จึงทำสลับข้างจนครบ 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าขาได้เป็นอย่างดี
ท่าวอร์มอัพวิ่ง Glute Bridge สำหรับท่าเตรียมสำหรับท่า Glute Bridge นั้นเริ่มด้วยการนอนราบลงที่พื้น พร้อมตั้งเข่าทั้งสองข้าง ให้ชันเข้าไว้และวางแขนไว้ข้างลำตัว จากนั้นให้ดันเอวขึ้นให้สูงที่สุดแล้วค้างไว้ราว ๆ 10-20 วินาที ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อสะโพกให้พร้อมต่อการวิ่งในระยะไกล
ท่าวอร์มอัพ Fire Hydrant สำหรับการบริหารต้นขาด้วยท่า Fire Hydrant เริ่มจากจัดท่าเตรียมให้อยู่ในท่าคลาน โดยวางมือให้ห่างกันนิดหน่อย เมื่อพร้อมแล้วให้ยกขาซ้ายไปทางด้านข้างและดึงกลับท่าเดิม ให้นับเป็น 1 ครั้ง ทำให้ได้ 20-25 ครั้งแล้วสลับข้าง นับเป็น 1 เซ็ท ทำ 3 เซ็ท
ท่าวอร์ม Side Step Squat สำหรับท่านี้ ให้เริ่มจากยืนตัวตรง วางเท้าให้ห่างกันเล็กน้อย จากนั้นให้ก้าวเท้าซ้ายไปด้านข้าง พร้อม ๆ กับย่อตัวลงไปในท่าสควอทแล้วดึงขากลับ ให้นับเป็น 1 ครั้ง โดยให้ทำสลับข้างไปเรื่อย ๆ จนครบ 20 ครั้ง
ท่า Warm Up ก่อนวิ่ง Calf Raise สำหรับท่า Calf Raise นั้นจะเน้นบริหารกล้ามเนื้อน่องให้แข็งแรง โดยให้เริ่มจากยืนตัวตรงด้วยการใช้ปลายเท้าเหยียบบนแผ่นยกเหล็กหรือแผ่นไม้ไว้ เมื่อพร้อมแล้วให้ดันส้นเท้าขึ้นและค้างไว้สัก 2 วินาที พยายามฝึกให้ครบ 15-20 ครั้ง
ท่า Warm Up Hamstring Stretch สำหรับท่า Hamstring Stretch นั้นเริ่มด้วยการยืนตัวตรง แล้วก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้าช้า ๆ โดยวางส้นเท้าลงและเปิดหน้าเท้าขึ้น พร้อมวางมือไว้บนหน้าขาข้างซ้ายและค่อย ๆ โน้มตัวลงไปเล็กน้อยแบบช้า ๆ ค้างไว้ราว ๆ 20 วินาที แล้วทำสลับข้างให้ครบ 20 ครั้ง การ Warm Up ก่อน ออกกำลังกาย ด้วยการวิ่ง ท่านี้จะเป็นการช่วยยืดกล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวายได้เป็นอย่างดี
วอร์มก่อนวิ่ง Quadriceps Stretch สำหรับการจัดท่าเตรียมสำหรับฝึกท่านี้ ให้เริ่มด้วยการยืนตรงและวางเท้าให้ชิดกัน จากนั้นให้ค่อย ๆ ยกเท้าซ้ายไปด้านหลัง แล้วใช้มือซ้ายจับตรงเท้าไว้และดึงเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกตึงบริเวณหน้าขา ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที แล้วทำสลับข้างให้ได้ 20 ครั้ง จะช่วยให้รู้สึกหน้าขาไร้อาการตึงเวลาวิ่ง
ออกกําลังกายชาย ด้วยการเล่นที่ฟิตเนสเชื่อเลยว่ามีคุณผู้ชายหลาย ๆ คนยังคงสงสัยเกี่ยวกับวิธีออกกำลังของตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ทำไม น้ำหนักถึงไม่ลดหรือกล้ามเนื้อไม่เพิ่มขึ้นอย่างที่คิดไว้เลยสักที ทั้งที่พยายามออกกำลังเป็นประจำแล้ว ซึ่งเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน ทุกอย่างก็ดูไม่แตกต่างจากเดิม ทำให้เครียด ไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกัน
ซึ่งเราขอบอกว่าการออกกำลังของคุณไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้ ที่คุณต้องลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเสียใหม่ เพื่อให้ไม่เสียเวลาเปล่าเวลาที่เข้ายิมออกกำลังกาย — ออกกําลังกายชาย
เล่นฟิตเนส การออกกำลังโดยการวิ่งหรือเล่นเวท ร่างกายจะใช้พลังงานและกล้ามเนื้อเยอะมากจนรู้ เราจะสึกได้ในช่วงแรก ๆ แต่พอเราทำมันผ่านไปได้สักระยะ เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว แต่เราก็ยังออกกำลังเท่าเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมเพิ่มน้ำหนักให้เยอะขึ้น เราขอบอกเลยว่าคุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการแน่นอน เพราะร่างกายไม่ได้พัฒนากล้ามเนื้อปมากกว่าเดิม วิธีแก้คือควรเพิ่มความท้าทายให้ร่างกายโดยการเพิ่มระยะทางในการวิ่งหรือน้ำหนักตอนยกเวท
วารสาร The Journal of the Academy of Nutrition and Dietetics ของอเมริกา ได้เผยว่า ผู้ชายที่ปรับวิธีออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ จะสามารถลดน้ำหนักได้ 9.2 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 6 เดือน ส่วนคนที่ออกกำลังไปเรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ลดไปเพียง 3.1 กิโลกรัมในเวลาเท่ากัน
ออกกําลังกายชาย หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมากต่อการออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่ง ทว่าบางคนกลับเลือกกินคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดีจากอาหารที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว และพาสต้า เป็นต้น ซึ่งคาร์โบไฮเดรตพวกนี้จะไปสะสมในร่างกายในรูปแบบของไขมัน แทนที่จะนำมาใช้เป็นพลังงาน เราขอแนะนำให้กินอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีแทนจะดีกว่า เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีทและโฮลเกรน ซึ่งจะให้คาร์โบไฮเดรตชนิดดีเข้าร่างกาย และนำมาใช้เป็นพลังงานในการออกกำลังได้ดีกว่า
นอกเหนือไปจากการกินคาร์โบไฮเดรตที่ดีแล้ว การเลือกกินอาหารที่มีธาตุเหล็กก็สำคัญเช่นกัน เพราะธาตุเหล็กทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อ สามารถอดทนต่อความเมื่อยล้าได้ดีขึ้น โดยผลการวิจัยในวารสารชื่อดังอย่าง Quality of Life Research พบว่า สาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ง่าย เป็นเพราะว่าร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเราขอแนะนำให้กินอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ผักใบเขียว และถั่ว เป็นต้น นอกจากนี้ธาตุเหล็กยังช่วยบำรุงเลือดเพื่อป้องกันโรคโลหิตจางได้ด้วย
ออกกําลังกายชายผิดวิธีไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายต้องพุ่งชนต่อการบาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อของคุณไปไม่ถึงเป้าหมายในการออกกำลังด้วย ไม่ว่าจะเรื่องของการลดน้ำหนักหรือสร้างกล้ามเนื้อ ดังนั้นใครที่เพิ่งออกกำลังได้ไม่นานและยังไม่รู้ท่าฝึกที่ถูกต้อง เราขอแนะนำว่าให้ปรึกษาเทรนเนอร์ที่ยิมก่อนเสมอ เพราะคุณจ่ายเงินไปแล้ว คุณย่อมปรึกษาได้ เพื่อผลประโยชน์ของท่าน
งานวิจัยของวารสาร Sports Medicine พบว่า การนอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ช้ามาก ทำให้เมื่อไปออกกำลังกายก็จะรู้สึกเหนื่อยง่ายอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเราขอแนะนำให้ควรพักผ่อนให้เต็มข้ออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมน ในการซ่อมแซมร่างกาย ได้เพียงพอ เพื่อที่คุณจะได้มีแรงในวันถัด ๆ ไป
สำหรับคนที่ยังเป็นมือใหม่ หรือ เพิ่งออกกำลังมาได้ไม่นาน แล้วฝึกได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกปวดตามกล้ามเนื้อ นั่นอาจเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อของคุณไม่มีความยืดหยุ่นมากพอ เพราะไม่ได้ยืดเส้นก่อนฝึก ส่งผลให้ปวดกล้ามเนื้อและอาจถึงขั้นกล้ามเนื้อฉีกขาดได้เลยก็เป็นได้ โดยเราขอแนะนำให้ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังทุกครั้งประมาณ 5 นาที เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกายและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อก่อนออกกำลัง
โดยปกติแล้ว การพักระหว่างเซตจะใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 90 วินาที แล้วค่อยเริ่มฝึกเซตต่อไปจะช่วยให้กล้ามเนื้อถูกบริหารอย่างต่อเนื่อง แต่หากพักนานเกินไป ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่พร้อมทำงาน และกลับสู่สภาพเดิม ซึ่งนั่นทำให้ต้องวอร์มใหม่อีกรอบ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ต้องใช้มีความยืดหยุ่นและพร้อมจะรับการฝึกอีกครั้ง จนเสียเวลาเกินกว่าเหตุ
ออกกําลังกายชายผิดวิธี ตอนนี้ทุก ๆ คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี หุ่นที่น่ามอง ดังนั้นการเข้ายิมเพิ่มกล้ามจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หนุ่ม ๆ ต้องทุ่มเทเพื่อให้ได้หุ่นอย่างที่ต้องการ แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น ทุกคนต้องผ่านความเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกาย แล้วยังต้องควบคุมจิตใจในการคุมอาหารด้วย
สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ก็ต้องคอยหาข้อมูลวิธีเพิ่มกล้ามให้ได้เร็ว ๆ ซึ่งอาจจะได้คำแนะนำผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเปลี่ยนคำแนะนำในการออกกำลังกายผิด ๆ ที่เราเคยได้ยินมา เพื่อให้การออกกำลังกายของคุณ เห็นผลดียิ่งขึ้น — ออกกําลังกายชาย
ออกกําลังกายชายเฉพาะส่วนเพื่อลดหน้าท้อง ลดต้นขา ถึงแม้จะฟังดูเหมือนทำได้ แต่ว่าทำจริงไม่ได้ เพราะร่างกายของเราจะดึงไขมันออกจากทุกส่วน ไม่ได้ออกมาจากส่วนเดียว โดยขึ้นอยู่กับการเผาผลาญของพันธุกรรม เพราะฉะนั้นเราควรออกกำลังกายให้ครบทุกส่วน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย ไขมันก็จะถูกเผาผลาญไปเองต่างหาก
แม้เวย์จะมีโปรตีนในปริมาณที่สูง แต่ก็มีสารอาหารไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการ จึงไม่สามารถนำมาทดแทนมื้ออาหารปกติได้ เพราะฉะนั้นควรทานอาหารที่หลากหลายให้ครบ 5 หมู่ หรือทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงควบคู่กับผักผลไม้ เพราะร่างกายคุณต้องการสารอาหารให้ครบทุกประเภท
อย่ายึดติดกับความเชื่อเรื่องเพศ โดยให้เน้นไปที่เป้าหมายว่าคุณต้องการสร้างกล้ามแบบไหน เพราะการ Toning หรือออกกำลังกายแบบทั่วทั้งร่างกาย นั้นก็สามารถช่วยให้คุณฟิต สร้างซิกแพคผู้ชาย กล้ามกระชับ และดูสมส่วนได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มกล้ามให้ใหญ่ขึ้นอยู่ตลอดเวลา
การยกน้ำหนักที่เบาเกินไปนั้น จะไม่เพิ่มกล้ามใด ๆ ทั้งนั้น เพราะต่อให้จะยกมากแค่ไหนก็ตาม คุณจะทำได้เพียงแค่เผาผลาญแคลลอรี่ไปเท่านั้น เพราะกล้ามที่ใหญ่นั้น หลักการของมันคือการทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดและซ่อมแซม เพื่อให้ได้กล้ามที่ใหญ่ขึ้นตามมาจากการฉีกขาด
โยคะ นั้นหลัก ๆ จะเน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อ ดังนั้นเพียงแค่โยคะอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้คุณกล้ามใหญ่ขึ้นได้ เพราะการเล่นโยคะนั้นเมื่อถึงจุด ๆ นึงที่ร่างกายชิน และไม่มีการเพิ่มน้ำหนัก ก็จะไม่สามารถเพิ่มกล้ามได้แล้วเช่นกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการหุ่นแบบไหนมากกว่า โดยหากคุณต้องการกระชับก็เล่นโยคะได้เลย แต่หากอยากกล้ามใหญ่ จำเป็นต้องเล่นเวทเท่านั้น
“เหงื่อเป็นเพียงแค่น้ำตาของไขมัน” เท่านั้น และไม่ได้เกี่ยวกับการเผาผลาญเลย ตัวอย่างง่าย ๆ คือ การนั่งตากแดดเหงื่อก็ออกเช่นกัน เพราะร่างกายขับเหงื่อเพื่อระบายความร้อน เพราะฉะนั้นอย่าวัดปริมาณไขมันที่หายไป ที่ปริมาณเหงื่อ โดยห้โฟกัสที่เป้าหมายของการออกกำลังกายเป็นหลัก
คนที่แข็งแรงกว่า ไม่จำเป็นต้องกล้ามใหญ่กว่าหรอกนะ เพราะในขณะที่นักกีฬาจะเน้นที่พละกำลังและความแข็งแรง แต่คนเล่นกล้ามมักจะให้ความสำคัญกับมวลกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ดังนั้นทางที่ดีเราควรที่จะฝึกให้สมส่วนและเลือกการเทรนนิ่งที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงที่สุด
ขอบอกเลยว่าเราทุกคนทั้งชายและหญิงเกิดมาพร้อมกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพียงแต่ว่ามีชั้นไขมันมาบังไว้เท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะซิทอัพแค่ไหน หากยังมีไขมันมาบังอยู่ ซิกแพ็คที่อยากเห็น ก็ไม่มีทางโผล่ออกมาได้หรอก เพราะฉะนั้นวิธีสร้างซิกแพคผู้ชายควรออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญควบคู่ไปด้วย ร่วมทั้งคุมอาหาร ซึ่งรับประกันได้เลยว่าหากคุณคุมอาหารพร้อมกับ ออกกำลังกาย แบบเน้นการเผาผลาญควบคู่ไปด้วย คุณจะเห็นซิคแพ็คของคุณเองแน่นอน
สำหรับใครที่เป็นนัก ออกกําลังกายมือใหม่ อยากลองหัดวิ่งไกล ๆ และยังไม่รู้ว่าควรวอร์มอัพร่างกายท่าไหน ก็สามารถเอาท่าเหล่านี้ไปใช้ได้เลย หรือสำหรับใครที่อยากออกกำลังกายลดพุงอยู่ล่ะก็ลองนำท่าเหล่านี้ไปฝึกกันได้เลย รับรองนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีพุงก็ยังจะหายไปอีกด้วย
อ้างอิง :