ออกกําลังกายมือใหม่ ท่าเบื้องต้นและความรู้ก่อนเริ่มออกกำลังกาย

ออกกําลังกายมือใหม่ ท่าเบื้องต้นและความรู้ก่อนเริ่มออกกำลังกาย

วิธีทําให้ผู้ชายติดใจ
วิธีทําให้ผู้ชายติดใจ กับ 10 ท่า พร้อมไอเท็มที่ดีที่สุด
October 31, 2022
รองเท้าผู้ชายเท่ๆ
รองเท้าผู้ชายเท่ๆ คัดมาให้แล้ว 8 ชนิด ที่ผู้ชายทุกคนควรมีติดตัวไว้
November 1, 2022
ออกกําลังกายชาย

ออกกําลังกายมือใหม่ 7 ท่าลดพุง ที่น่าลอง รับรองได้ผลเร่งด่วน 

ออกกําลังกายมือใหม่ ท่าลดพุง ที่น่าลอง รับรองได้ผลเร่งด่วน ถ้าคุณผู้ชายทำอย่างต่อเนื่อง เชื่อเลยว่าต้องมีหนุ่ม ๆ จำนวนไม่น้อยที่อาจคิดว่าการซิทอัพเป็นวิธีที่ช่วยลดพุงพร้อมเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องได้ ซึ่งอันที่จริงแล้ว ยังมีท่าบริหารหน้าท้องสำหรับลดพุงอีกมากมายที่ดีแพ้ท่าซิทอัพเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปดูกันว่ามีท่าอะไรบ้าง 

1. ออกกําลังกายมือใหม่ Side Plank

1. ท่าลดพุง Side Plank ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าลดพุง Side Plank สำหรับท่านี้ให้จัดท่าเตรียมด้วยการนอนตะแคงไปทางด้านขวาโดยใช้ศอกขวาดันตัวขึ้นเล็กน้อย พร้อมเกร็งลำตัวค้างไว้ราว ๆ 30 วินาที จึงเปลี่ยนข้าง นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความยากให้ร่างกายได้โดยการยกขาที่วางอยู่ด้านบนขึ้นและค้างไว้ พร้อมกับทำค้างไว้ราว ๆ 45-60 วินาทีก็ได้เช่นกัน

2. ท่าลดพุงง่าย ๆ Hanging Leg Lift

2. ท่าลดพุงเร่งด่วน Hanging Leg Lift ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าลดพุงเร่งด่วน Hanging Leg Lift สำหรับการเริ่มฝึกท่านี้นั้นให้โหนบาร์ไว้ วางมือทั้งสองข้างให้กว้างเท่าหัวไหล่และวางเท้าชิดกันที่สุด จากนั้นเมื่อพร้อมแล้วให้ออกแรงดึงขาขึ้นจนเข่ามาอยู่ที่ระดับหน้าอก ค้างไว้สัก 1-2 วินาที จากนั้นค่อย ๆ ผ่อนลงช้า ๆ จึงนับเป็น 1 ครั้ง ควรทำให้ได้ 10-12 ครั้ง

3. ออกกําลังกายมือใหม่ Split Leg-Arm Reach

3. ท่าลดพุงด่วน Split Leg-Arm Reach ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าลดพุงด่วน Split Leg-Arm Reach สำหรับการฝึกท่านี้ให้เริ่มด้วยท่าคลาน จากนั้นให้ค่อย ๆ ดันขาซ้ายไปด้านหลัง พร้อมเหยียดแขนขวาไปด้านหน้าจนสุดในจังหวะเดียวกัน แล้วค่อย ๆ กลับท่าเตรียม ฝึกสลับข้างให้ครบข้างละ 10 ครั้ง ทำประมาณ 4 เซ็ทด้วยกัน

4. ท่าลดพุงง่าย ๆ Front Barbell Squat

4. ท่าออกกำลังกายลดพุง Front Barbell Squat ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าออกกำลังกายลดพุง Front Barbell Squat สำหรับท่านี้เริ่มจากจับบาร์เบลพาดไหล่ที่ด้านหน้าไว้ โดยที่แขนทั้งสองข้างต้องไขว้กัน แล้ววางเท้าให้ห่างกันพอดี ๆ จากนั้นค่อย ๆ ย่อตัวลงไปในท่าสควอทและค่อย ๆ ลุกขึ้นกลับท่าเตรียม ให้นับเป็น 1 ครั้ง ควรฝึก 10 ครั้ง 4 เซ็ทด้วยกัน

5. ออกกําลังกายมือใหม่ Two-Arm Kettlebell Swing

5. การออกกำลังกายลดพุง Two-Arm Kettlebell Swing ออกกําลังกายมือใหม่

การออกกำลังกายลดพุง ด้วยท่า Two-Arm Kettlebell Swing การเริ่มท่านี้นั้นให้เริ่มโดยการยืนวางเท้าให้ความกว้างพอดี ๆ พร้อมใช้มือทั้งสองข้างจับเคตเทิลเบลไว้ จากนั้นให้ย่อตัวลงแบบช้า ๆ และโน้มต้วไปด้านหน้าเล็กน้อย เมื่อพร้อมแล้วก็ออกแรงแขนเหวี่ยงเคตเทิลเบลขึ้น และตอนเอาลงให้ทำเป็นจังหวะ ควรทำให้ครบ 10 ครั้ง 4เซ็ทด้วยกัน และถ้าใครไม่มีเคตเทิลเบล ก็ใช้ดัมเบลแทนได้เช่นกันโดยทำในลักษณะเดียวกันไปเลย

6. ท่าลดพุงง่าย ๆ Split Squat

6. ลดพุง Split Squat ออกกําลังกายมือใหม่

ลดพุง Split Squat สำหรับท่านี้นั้นเริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด โดยที่แขนทั้งสองข้างแนบลำตัวไว้ ต่อมาให้เลื่อนเท้าขวาไปด้านหลังประมาณครึ่งก้าวพร้อมใช้ปลายเท้าดันพื้นไว้ จากนั้นก็ย่อตัวลงช้า ๆ ในท่าสควอท ทำให้ได้ 10-12 ครั้ง แล้วสลับข้าง โดยสามารถถือดัมเบลเพื่อเพิ่มความยากให้ร่างกายได้

7. ออกกําลังกายมือใหม่ Mountain Climber

7. ลดพุงเร่งด่วน Mountain Climber ออกกําลังกายมือใหม่

ลดพุงเร่งด่วน Mountain Climber สำหรับการฝึกท่า Mountain Climber นั้นให้เริ่มในท่าวิดพื้นก่อน แล้วค่อย ๆ ใช้ปลายเท้าดันพื้นไว้ จากนั้นให้ก้าวเท้าไปด้านหน้าพอประมาณ โดยให้เข่าอยู่ราว ๆ หน้าท้อง ทำสลับข้างไปเรื่อย ๆ แบบมีจังหวะ ให้ได้มากที่สุดภายในเวลา 1 นาที แล้วพัก 1 นาที แล้วทำต่ออีก 3 เซ็ทด้วยกัน

7 ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ เพิ่มความฟิตในการวิ่งให้ผู้ชาย ที่สายวิ่งต้องอ่าน

ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ ก่อนวิ่ง ระยะไกล เพิ่มความฟิตในการวิ่งให้ผู้ชาย ที่สายวิ่งต้องอ่าน เทรนด์ออกกำลังกายที่กำลังฮิตที่สุดในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ต้องบอกเลยว่าการวิ่งมาราธอน คืออันดับต้น ๆ แน่นอน ซึ่งส่งผลให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยหันมาหัดวิ่งกัน แต่หลายคนก็ยังไม่รู้ว่าควรวอร์มอัพเพื่อเตรียมร่างกายให้พร้อมก่อนการวิ่งอย่างไรดี ดังนั้นวันนี้เราจึงรวบรวมท่าสำหรับวอร์มอัพก่อนวิ่งมาแนะนำให้ได้รู้และนำไปใช้กันครับ 

1. ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ Hip Flexor Stretch

1. ท่าวอร์มก่อนวิ่ง Hip Flexor Stretch ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าวอร์มก่อนวิ่ง Hip Flexor Stretch สำหรับท่านี้เริ่มจากยืนตัวตรงเท้าชิด มือทั้งสองแนบลำตัวไว้ แล้วให้ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าพร้อมย่อตัวลงจนเข่าขวาสัมผัสพื้น ให้เอนตัวไปข้างหน้านิดหน่อย แล้วค้างไว้สัก15-20 วินาที จึงทำสลับข้างจนครบ 10 ครั้ง ท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อบริเวณหน้าขาได้เป็นอย่างดี

2. ท่าวอร์มอัพวิ่ง Glute Bridge

2. ท่าวอร์มอัพวิ่ง Glute Bridge ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าวอร์มอัพวิ่ง Glute Bridge สำหรับท่าเตรียมสำหรับท่า Glute Bridge นั้นเริ่มด้วยการนอนราบลงที่พื้น พร้อมตั้งเข่าทั้งสองข้าง ให้ชันเข้าไว้และวางแขนไว้ข้างลำตัว จากนั้นให้ดันเอวขึ้นให้สูงที่สุดแล้วค้างไว้ราว ๆ 10-20 วินาที ท่านี้จะช่วยบริหารกล้ามเนื้อสะโพกให้พร้อมต่อการวิ่งในระยะไกล

3. ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ Fire Hydrant

3.ท่าวอร์มอัพ Fire Hydrant ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าวอร์มอัพ Fire Hydrant สำหรับการบริหารต้นขาด้วยท่า Fire Hydrant เริ่มจากจัดท่าเตรียมให้อยู่ในท่าคลาน โดยวางมือให้ห่างกันนิดหน่อย เมื่อพร้อมแล้วให้ยกขาซ้ายไปทางด้านข้างและดึงกลับท่าเดิม ให้นับเป็น 1 ครั้ง ทำให้ได้ 20-25 ครั้งแล้วสลับข้าง นับเป็น 1 เซ็ท ทำ 3 เซ็ท

4. ท่าวอร์ม Side Step Squat

4.ท่าวอร์ม Side Step Squat ออกกําลังกายมือใหม่

ท่าวอร์ม Side Step Squat สำหรับท่านี้ ให้เริ่มจากยืนตัวตรง วางเท้าให้ห่างกันเล็กน้อย จากนั้นให้ก้าวเท้าซ้ายไปด้านข้าง พร้อม ๆ กับย่อตัวลงไปในท่าสควอทแล้วดึงขากลับ ให้นับเป็น 1 ครั้ง โดยให้ทำสลับข้างไปเรื่อย ๆ จนครบ 20 ครั้ง

5. ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ Calf Raise

5. ท่า Warm Up ก่อนวิ่ง Calf Raise ออกกําลังกายมือใหม่

ท่า Warm Up ก่อนวิ่ง Calf Raise สำหรับท่า Calf Raise นั้นจะเน้นบริหารกล้ามเนื้อน่องให้แข็งแรง โดยให้เริ่มจากยืนตัวตรงด้วยการใช้ปลายเท้าเหยียบบนแผ่นยกเหล็กหรือแผ่นไม้ไว้ เมื่อพร้อมแล้วให้ดันส้นเท้าขึ้นและค้างไว้สัก 2 วินาที พยายามฝึกให้ครบ 15-20 ครั้ง

6. ท่า Warm Up Hamstring Stretch

6. ท่า Warm Up Hamstring Stretch ออกกําลังกายมือใหม่

ท่า Warm Up Hamstring Stretch สำหรับท่า Hamstring Stretch นั้นเริ่มด้วยการยืนตัวตรง แล้วก้าวเท้าซ้ายไปด้านหน้าช้า ๆ โดยวางส้นเท้าลงและเปิดหน้าเท้าขึ้น พร้อมวางมือไว้บนหน้าขาข้างซ้ายและค่อย ๆ โน้มตัวลงไปเล็กน้อยแบบช้า ๆ ค้างไว้ราว ๆ 20 วินาที แล้วทำสลับข้างให้ครบ 20 ครั้ง การ Warm Up ก่อน ออกกำลังกาย ด้วยการวิ่ง ท่านี้จะเป็นการช่วยยืดกล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวายได้เป็นอย่างดี

7. ท่าวอร์มอัพง่าย ๆ Quadriceps Stretch

7. วอร์มก่อนวิ่ง Quadriceps Stretch ออกกําลังกาย ชาย

วอร์มก่อนวิ่ง Quadriceps Stretch สำหรับการจัดท่าเตรียมสำหรับฝึกท่านี้ ให้เริ่มด้วยการยืนตรงและวางเท้าให้ชิดกัน จากนั้นให้ค่อย ๆ ยกเท้าซ้ายไปด้านหลัง แล้วใช้มือซ้ายจับตรงเท้าไว้และดึงเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้รู้สึกตึงบริเวณหน้าขา ค้างไว้ประมาณ 15 วินาที แล้วทำสลับข้างให้ได้ 20 ครั้ง จะช่วยให้รู้สึกหน้าขาไร้อาการตึงเวลาวิ่ง

เผย 7 เหตุผลที่ทำให้คุณเข้าไปเล่นฟิตเนส แล้วไม่เป็นไปตามเป้าที่วางไว้

ออกกําลังกายชาย ด้วยการเล่นที่ฟิตเนสเชื่อเลยว่ามีคุณผู้ชายหลาย ๆ คนยังคงสงสัยเกี่ยวกับวิธีออกกำลังของตัวเองอยู่เหมือนกันว่า ทำไม น้ำหนักถึงไม่ลดหรือกล้ามเนื้อไม่เพิ่มขึ้นอย่างที่คิดไว้เลยสักที ทั้งที่พยายามออกกำลังเป็นประจำแล้ว ซึ่งเมื่อผ่านไป 2-3 เดือน ทุกอย่างก็ดูไม่แตกต่างจากเดิม ทำให้เครียด ไม่รู้ว่ามีสาเหตุมาจากอะไรกัน

ซึ่งเราขอบอกว่าการออกกำลังของคุณไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร อาจเป็นเพราะสาเหตุเหล่านี้ ที่คุณต้องลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเสียใหม่ เพื่อให้ไม่เสียเวลาเปล่าเวลาที่เข้ายิมออกกำลังกาย — ออกกําลังกายชาย 

1. เล่นฟิตเนส แต่ไม่เพิ่มความท้าทายตอนออกกำลัง

1. เล่นฟิตเนส แต่ไม่เพิ่มความท้าทาย ออกกำลังกายมือใหม่

เล่นฟิตเนส การออกกำลังโดยการวิ่งหรือเล่นเวท ร่างกายจะใช้พลังงานและกล้ามเนื้อเยอะมากจนรู้ เราจะสึกได้ในช่วงแรก ๆ แต่พอเราทำมันผ่านไปได้สักระยะ เมื่อร่างกายปรับตัวได้แล้ว แต่เราก็ยังออกกำลังเท่าเดิมไปเรื่อย ๆ ไม่ยอมเพิ่มน้ำหนักให้เยอะขึ้น เราขอบอกเลยว่าคุณจะไม่ได้ผลลัพธ์ตามต้องการแน่นอน เพราะร่างกายไม่ได้พัฒนากล้ามเนื้อปมากกว่าเดิม วิธีแก้คือควรเพิ่มความท้าทายให้ร่างกายโดยการเพิ่มระยะทางในการวิ่งหรือน้ำหนักตอนยกเวท

วารสาร The Journal of the Academy of Nutrition and Dietetics ของอเมริกา ได้เผยว่า ผู้ชายที่ปรับวิธีออกกำลังกายไปเรื่อย ๆ จะสามารถลดน้ำหนักได้ 9.2 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 6 เดือน ส่วนคนที่ออกกำลังไปเรื่อย ๆ ไม่เปลี่ยนแปลง ลดไปเพียง 3.1 กิโลกรัมในเวลาเท่ากัน

2. กินคาร์โบไฮเดรตผิดประเภท

2. กินคาร์โบไฮเดรตผิดประเภท ออกกำลังกายมือใหม่

ออกกําลังกายชาย หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่า คาร์โบไฮเดรต เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญมากต่อการออกกำลังกายอีกชนิดหนึ่ง ทว่าบางคนกลับเลือกกินคาร์โบไฮเดรตชนิดไม่ดีจากอาหารที่ผ่านการขัดสี เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว และพาสต้า เป็นต้น ซึ่งคาร์โบไฮเดรตพวกนี้จะไปสะสมในร่างกายในรูปแบบของไขมัน แทนที่จะนำมาใช้เป็นพลังงาน เราขอแนะนำให้กินอาหารที่ไม่ผ่านการขัดสีแทนจะดีกว่า เช่น ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ขนมปังโฮลวีทและโฮลเกรน ซึ่งจะให้คาร์โบไฮเดรตชนิดดีเข้าร่างกาย และนำมาใช้เป็นพลังงานในการออกกำลังได้ดีกว่า

3. กินธาตุเหล็กไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย

3. กินธาตุเหล็กไม่เพียงพอ ออกกำลังกายมือใหม่

นอกเหนือไปจากการกินคาร์โบไฮเดรตที่ดีแล้ว การเลือกกินอาหารที่มีธาตุเหล็กก็สำคัญเช่นกัน เพราะธาตุเหล็กทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ส่งผลให้กล้ามเนื้อ สามารถอดทนต่อความเมื่อยล้าได้ดีขึ้น โดยผลการวิจัยในวารสารชื่อดังอย่าง Quality of Life Research พบว่า สาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงได้ง่าย เป็นเพราะว่าร่างกายขาดธาตุเหล็ก ซึ่งเราขอแนะนำให้กินอาหารที่อุดมไปด้วยธาตุเหล็กให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ผักใบเขียว และถั่ว เป็นต้น นอกจากนี้ธาตุเหล็กยังช่วยบำรุงเลือดเพื่อป้องกันโรคโลหิตจางได้ด้วย

4. ออกกำลังเล่นฟิตเนสผิดวิธี

4. ออกกำลังเล่นฟิตเนสผิดวิธี ออกกำลังกายมือใหม่

ออกกําลังกายชายผิดวิธีไม่เพียงแค่ทำให้ร่างกายต้องพุ่งชนต่อการบาดเจ็บเท่านั้น แต่ยังทำให้กล้ามเนื้อของคุณไปไม่ถึงเป้าหมายในการออกกำลังด้วย ไม่ว่าจะเรื่องของการลดน้ำหนักหรือสร้างกล้ามเนื้อ ดังนั้นใครที่เพิ่งออกกำลังได้ไม่นานและยังไม่รู้ท่าฝึกที่ถูกต้อง เราขอแนะนำว่าให้ปรึกษาเทรนเนอร์ที่ยิมก่อนเสมอ เพราะคุณจ่ายเงินไปแล้ว คุณย่อมปรึกษาได้ เพื่อผลประโยชน์ของท่าน

5. พักผ่อนไม่เพียงพอ

5. พักผ่อนไม่เพียงพอ ท่าวอร์มอัพง่ายๆ

งานวิจัยของวารสาร Sports Medicine พบว่า การนอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้ร่างกายพักผ่อนได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้กล้ามเนื้อฟื้นตัวได้ช้ามาก ทำให้เมื่อไปออกกำลังกายก็จะรู้สึกเหนื่อยง่ายอย่างเห็นได้ชัด ดังนั้นเราขอแนะนำให้ควรพักผ่อนให้เต็มข้ออย่างน้อยวันละ 8 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายผลิตโกรทฮอร์โมน ในการซ่อมแซมร่างกาย ได้เพียงพอ เพื่อที่คุณจะได้มีแรงในวันถัด ๆ ไป

6. ไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนฝึก

6. ไม่ยืดกล้ามเนื้อก่อนฝึก ท่าลดพุงง่ายๆ

สำหรับคนที่ยังเป็นมือใหม่ หรือ เพิ่งออกกำลังมาได้ไม่นาน แล้วฝึกได้ไม่เท่าไรก็รู้สึกปวดตามกล้ามเนื้อ นั่นอาจเป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อของคุณไม่มีความยืดหยุ่นมากพอ เพราะไม่ได้ยืดเส้นก่อนฝึก ส่งผลให้ปวดกล้ามเนื้อและอาจถึงขั้นกล้ามเนื้อฉีกขาดได้เลยก็เป็นได้ โดยเราขอแนะนำให้ยืดกล้ามเนื้อก่อนออกกำลังทุกครั้งประมาณ 5 นาที เพื่อเป็นการอบอุ่นร่างกายและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กล้ามเนื้อก่อนออกกำลัง

7. ใช้เวลาพักระหว่างเซตนานเกินไป

7. ใช้เวลาพักระหว่างเซตนานเกินไป ท่าลดพุงง่ายๆ

โดยปกติแล้ว การพักระหว่างเซตจะใช้เวลาประมาณ 30 วินาทีขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 90 วินาที แล้วค่อยเริ่มฝึกเซตต่อไปจะช่วยให้กล้ามเนื้อถูกบริหารอย่างต่อเนื่อง แต่หากพักนานเกินไป ก็อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่พร้อมทำงาน และกลับสู่สภาพเดิม ซึ่งนั่นทำให้ต้องวอร์มใหม่อีกรอบ เพื่อให้กล้ามเนื้อที่ต้องใช้มีความยืดหยุ่นและพร้อมจะรับการฝึกอีกครั้ง จนเสียเวลาเกินกว่าเหตุ

เผย 8 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายผิดวิธี ที่คุณผู้ชายควรรู้

ออกกําลังกายชายผิดวิธี ตอนนี้ทุก ๆ คนหันมาออกกำลังกายมากขึ้น เพื่อสุขภาพที่ดี หุ่นที่น่ามอง ดังนั้นการเข้ายิมเพิ่มกล้ามจึงกลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่หนุ่ม ๆ ต้องทุ่มเทเพื่อให้ได้หุ่นอย่างที่ต้องการ แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น ทุกคนต้องผ่านความเหน็ดเหนื่อยทั้งร่างกาย แล้วยังต้องควบคุมจิตใจในการคุมอาหารด้วย

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ก็ต้องคอยหาข้อมูลวิธีเพิ่มกล้ามให้ได้เร็ว ๆ ซึ่งอาจจะได้คำแนะนำผิด ๆ เกี่ยวกับการออกกำลังกายได้ ดังนั้นวันนี้เราจะมาเปลี่ยนคำแนะนำในการออกกำลังกายผิด ๆ ที่เราเคยได้ยินมา เพื่อให้การออกกำลังกายของคุณ เห็นผลดียิ่งขึ้น — ออกกําลังกายชาย 

1. “ลดเฉพาะส่วนได้”

1. การออกกำลังกายผิดวิธี “ลดเฉพาะส่วนได้” ออกกำลังกายมือใหม่

ออกกําลังกายชายเฉพาะส่วนเพื่อลดหน้าท้อง ลดต้นขา ถึงแม้จะฟังดูเหมือนทำได้ แต่ว่าทำจริงไม่ได้ เพราะร่างกายของเราจะดึงไขมันออกจากทุกส่วน ไม่ได้ออกมาจากส่วนเดียว โดยขึ้นอยู่กับการเผาผลาญของพันธุกรรม เพราะฉะนั้นเราควรออกกำลังกายให้ครบทุกส่วน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับร่างกาย ไขมันก็จะถูกเผาผลาญไปเองต่างหาก

2. “เวย์โปรตีนแทนได้ทุกอย่าง”

2. “เวย์โปรตีนแทนได้ทุกอย่าง” ออกกำลังกายมือใหม่

แม้เวย์จะมีโปรตีนในปริมาณที่สูง แต่ก็มีสารอาหารไม่ครบตามที่ร่างกายต้องการ จึงไม่สามารถนำมาทดแทนมื้ออาหารปกติได้ เพราะฉะนั้นควรทานอาหารที่หลากหลายให้ครบ 5 หมู่ หรือทานอาหารที่ให้โปรตีนสูงควบคู่กับผักผลไม้ เพราะร่างกายคุณต้องการสารอาหารให้ครบทุกประเภท

3. “Toning สำหรับผู้หญิง, Building สำหรับผู้ชาย”

3. “Toning สำหรับผู้หญิง, Building สำหรับผู้ชาย” ออกกำลังกายมือใหม่

อย่ายึดติดกับความเชื่อเรื่องเพศ โดยให้เน้นไปที่เป้าหมายว่าคุณต้องการสร้างกล้ามแบบไหน เพราะการ Toning หรือออกกำลังกายแบบทั่วทั้งร่างกาย นั้นก็สามารถช่วยให้คุณฟิต สร้างซิกแพคผู้ชาย กล้ามกระชับ และดูสมส่วนได้เช่นกัน โดยไม่จำเป็นที่จะต้องเพิ่มกล้ามให้ใหญ่ขึ้นอยู่ตลอดเวลา

4. “ยกน้ำหนักเบา จะเน้นกล้ามให้สวยขึ้น”

4. “ยกน้ำหนักเบา จะเน้นกล้ามให้สวยขึ้น” ออกกำลังกายมือใหม่

การยกน้ำหนักที่เบาเกินไปนั้น จะไม่เพิ่มกล้ามใด ๆ ทั้งนั้น เพราะต่อให้จะยกมากแค่ไหนก็ตาม คุณจะทำได้เพียงแค่เผาผลาญแคลลอรี่ไปเท่านั้น เพราะกล้ามที่ใหญ่นั้น หลักการของมันคือการทำให้กล้ามเนื้อฉีกขาดและซ่อมแซม เพื่อให้ได้กล้ามที่ใหญ่ขึ้นตามมาจากการฉีกขาด

5. “โยคะสร้างกล้าม”

5. “โยคะสร้างกล้าม” ท่าวอร์มอัพง่ายๆ

โยคะ นั้นหลัก ๆ จะเน้นไปที่การยืดกล้ามเนื้อ ดังนั้นเพียงแค่โยคะอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้คุณกล้ามใหญ่ขึ้นได้ เพราะการเล่นโยคะนั้นเมื่อถึงจุด ๆ นึงที่ร่างกายชิน และไม่มีการเพิ่มน้ำหนัก ก็จะไม่สามารถเพิ่มกล้ามได้แล้วเช่นกัน ดังนั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการหุ่นแบบไหนมากกว่า โดยหากคุณต้องการกระชับก็เล่นโยคะได้เลย แต่หากอยากกล้ามใหญ่ จำเป็นต้องเล่นเวทเท่านั้น

6. “ยิ่งเหงื่อมาก ยิ่งเผาผลาญ”

6. “ยิ่งเหงื่อมาก ยิ่งเผาผลาญ” ท่าวอร์มอัพง่ายๆ

“เหงื่อเป็นเพียงแค่น้ำตาของไขมัน” เท่านั้น และไม่ได้เกี่ยวกับการเผาผลาญเลย ตัวอย่างง่าย ๆ คือ การนั่งตากแดดเหงื่อก็ออกเช่นกัน เพราะร่างกายขับเหงื่อเพื่อระบายความร้อน เพราะฉะนั้นอย่าวัดปริมาณไขมันที่หายไป ที่ปริมาณเหงื่อ โดยห้โฟกัสที่เป้าหมายของการออกกำลังกายเป็นหลัก

7. “ยิ่งกล้ามใหญ่ ยิ่งแข็งแกร่ง”

7. “ยิ่งกล้ามใหญ่ ยิ่งแข็งแกร่ง” ท่าลดพุงง่ายๆ

คนที่แข็งแรงกว่า ไม่จำเป็นต้องกล้ามใหญ่กว่าหรอกนะ เพราะในขณะที่นักกีฬาจะเน้นที่พละกำลังและความแข็งแรง แต่คนเล่นกล้ามมักจะให้ความสำคัญกับมวลกล้ามเนื้อที่ใหญ่ขึ้น ๆ เรื่อย ๆ ดังนั้นทางที่ดีเราควรที่จะฝึกให้สมส่วนและเลือกการเทรนนิ่งที่เหมาะสมเพื่อให้ร่างกายแข็งแรงที่สุด

8. “ซิทอัพสร้างกล้ามท้อง”

8. “ซิทอัพสร้างกล้ามท้อง” ออกกําลังกาย ชาย

ขอบอกเลยว่าเราทุกคนทั้งชายและหญิงเกิดมาพร้อมกล้ามเนื้อหน้าท้อง เพียงแต่ว่ามีชั้นไขมันมาบังไว้เท่านั้นเอง ดังนั้นไม่ว่าคุณจะซิทอัพแค่ไหน หากยังมีไขมันมาบังอยู่ ซิกแพ็คที่อยากเห็น ก็ไม่มีทางโผล่ออกมาได้หรอก เพราะฉะนั้นวิธีสร้างซิกแพคผู้ชายควรออกกำลังกายที่เน้นการเผาผลาญควบคู่ไปด้วย ร่วมทั้งคุมอาหาร ซึ่งรับประกันได้เลยว่าหากคุณคุมอาหารพร้อมกับ ออกกำลังกาย แบบเน้นการเผาผลาญควบคู่ไปด้วย คุณจะเห็นซิคแพ็คของคุณเองแน่นอน

สำหรับใครที่เป็นนัก ออกกําลังกายมือใหม่ อยากลองหัดวิ่งไกล ๆ และยังไม่รู้ว่าควรวอร์มอัพร่างกายท่าไหน ก็สามารถเอาท่าเหล่านี้ไปใช้ได้เลย หรือสำหรับใครที่อยากออกกำลังกายลดพุงอยู่ล่ะก็ลองนำท่าเหล่านี้ไปฝึกกันได้เลย รับรองนอกจากจะได้สุขภาพที่ดีพุงก็ยังจะหายไปอีกด้วย

อ้างอิง : 

 


Warning: Trying to access array offset on value of type null in /srv/users/cordy2/apps/bkkmen/public/wp-content/themes/betheme 20 7 7/includes/content-single.php on line 281
Bumrungrut Pothisakda
Bumrungrut Pothisakda
พนักงานออฟฟิศและโปรแกรมเมอร์ฟรีแลนซ์ ผู้ชื่นชอบด้านแฟชั่น สุขภาพและการดูแลสุขภาพ เริ่มเขียนบทความและสร้างเว็บไซต์เพราะอยากแบ่งปันความชื่นชอบและเทคนิคต่าง ๆ ในการดูแลตัวเองสำหรับผู้ชาย