10 วิธีทำให้หล่อขึ้น ถ้าอยากผิวดี อยากดูดี ต้องทำยังไง

10 วิธีทำให้หล่อขึ้น ถ้าอยากผิวดี อยากดูดี ต้องทำยังไง

วิธีทำให้หล่อขึ้น ถ้าอยากผิวดี อยากดูดี ต้องทำยังไง ความหล่ออาจจะฟังดูเหมือนเป็นแค่เพียงนามธรรมที่ผู้ชายนั้นปรารถนา แต่เชื่อว่าหนุ่มๆ ทุกคนย่อมต้องการที่จะดูดีมีเสน่ห์ด้วยกันทั้งนั้น จึงเป็นเรื่องที่เราไม่แปลกใจเลยว่าเพราะเหตุใดผู้ชายในยุคปัจจุบันจึงหันมาดูแลและใส่ใจกับสุขภาพผิวกันมากขึ้น

แต่เนื่องจากผิวพรรณของผู้ชายนั้นมีความแตกต่าง อันเนื่องมาจากฮอร์โมนในร่างกายและไลฟ์สไตล์ที่ต่างจากผู้หญิงนั่นเอง ดังนั้นเพื่อเป็นการเสริมเสน่ห์ให้น่าประทับใจสำหรับผู้คนทั่วไป เราจึงควรดูแลสุขภาพผิวให้ถูกวิธีด้วยเคล็ดลับการดูแลผิวสำหรับผู้ชายเพียง 10 ข้อ ดังนี้ 

1. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว

วิธีทำให้หล่อขึ้น ถึงแม้ว่าผู้ชายจำนวนไม่น้อยมักจะชอบใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือครีมบำรุงผิวของผู้หญิง แต่นั่นกลับเป็นการทำความสะอาดและครีมบํารุงผิวหน้าที่ไม่เพียงพอ เนื้อครีมจะไม่ซึมลงสู่ผิวและทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะจนก่อให้เกิดความมันในที่สุด

แต่เพราะความแตกต่างของฮอร์โมนที่มีผลต่อผิวพรรณของผู้ชายและผู้หญิง ซึ่งทำให้มีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะฮอร์โมนเพศชายจะมีผลอย่างชัดเจนมากในเรื่องความแข็งแรงและดูหนากว่า รวมถึงความยืดหยุ่นและความกระชับเต่งตึง ดังนั้นการดูแลผิวพรรณของผู้ชายจึงควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาเพื่อผิวสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ 

2. ล้างหน้าให้สะอาดทุกครั้ง

วิธีทำให้หล่อขึ้น แบบง่ายๆ การล้างหน้าจะเป็นการช่วยชะล้างสิ่งสกปรกและมลพิษต่างๆ ในแต่ละวัน แต่สำหรับผู้ชายบางคนถือว่าการล้างหน้าให้สะอาดนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยเริ่มจากการล้างหน้าหลังจากอาบน้ำและสระผมทุกครั้ง ซึ่งทำให้สารเคมีที่อยู่ในผลิตภัณฑ์เหล่านั้นตกค้างอยู่บนผิวหน้าอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นจึงควรล้างหน้าให้สะอาดก่อนเข้านอนทุกวัน โดยใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเอง จะช่วยขจัดสิ่งสกปรกที่สะสมและตกค้างบนผิวหนังได้ 

3. สครับหน้าอย่างสม่ำเสมอ

วิธีทำให้หล่อขึ้น อีกวิธี นั่นคือ การขจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพจะช่วยให้ผิวหน้ามีความกระจ่างใส และช่วยให้ผิวหน้าเรียบเนียนสม่ำเสมอ โดยใช้เวลาขณะที่กำลังอาบน้ำให้นำมือถูไปมาในลักษณะเดียวกับการขัดขี้ไคล หรือใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการสครับหน้าที่มีเม็ดสครับละเอียด ไม่คมจนทำให้บาดทำร้ายผิว

จากนั้นค่อยๆ ถูครีมสครับให้ทั่วผิวหน้าอย่างเบามือ เพื่อป้องกันการเกิดอาการระคายเคืองจนเป็นแผลและทำให้เกิดสิวได้ ใช้เวลาขัดหน้าประมาณ 3-4 นาที แล้วใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดเบาๆ จนสะอาด ตามด้วยการล้างด้วยน้ำเย็นเพื่อปิดรูขุมขน และทาครีมบำรุงผิวเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวพรรณ 

4. ทาครีมกันแดดก่อนออกจากบ้าน

ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งไม่ว่าสำหรับผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะสารสำคัญในครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวไม่ให้หมองคล้ำหรือเหี่ยวย่นจนแลดูแก่กว่าวัย ซึ่งการเลือกครีมกันแดดให้พิจารณาจากค่า SPF ที่จะเป็นค่าชี้วัดว่า เราจะอยู่ท่ามกลางแสงแดดได้นานเพียงใด

หากต้องเผชิญกับแสงแดดจัดๆ ให้เลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ถ้าบนฉลากมีการระบุว่า “UVA” จะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดฝ้าและกระ รวมถึงริ้วรอยเหี่ยวย่นก่อนวัย สำหรับฉลากที่ระบุว่า “UVB” จะมีคุณสมบัติช่วยป้องกันผิวหนังไหม้แดดจนมีอาการแสบและแดงได้ 

5. โกนหนวดอย่างสม่ำเสมอ

ผู้ชายกับการโกนหนวดเป็นของคู่กันที่ต้องทำเป็นกิจวัตร แต่ในช่วงเวลาที่เร่งรีบก็อาจจะทำให้ใบมีดโกนหนวดบาดผิวหนังจนเป็นแผลได้ ดังนั้นที่โกนหนวดไฟฟ้าจึงเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยป้องกันผิวหนังจากอาการระคายเคืองได้ และยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นให้ผิวหน้าของคุณผู้ชายคงความเนียนนุ่มไว้อีกด้วย 

6. ควรใช้โลชั่นหลังการโกนหนวดทุกครั้ง

จริงๆ แล้วผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหนังหลังการโกนหนวดหรือที่เราเรียกกันว่า “อาฟเตอร์เชฟ” (After Shave) เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อผู้ชายอย่างยิ่ง เพราะส่วนประกอบในอาฟเตอร์เชฟจะมีสารบำรุงประเภทมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองและลดการอักเสบหลังจากที่โกนหนวดได้

นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์อาฟเตอร์เชฟบางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารคาปิสโลว์ ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยชะลอการงอกของเส้นหนวดให้ช้าลง เราจึงไม่ต้องโกนหนวดบ่อยๆ นั่นเอง 

7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์

เราควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพ โดยเฉพาะอาหารที่ช่วยบำรุงผิวพรรณอย่างเช่นผักผลไม้สดและธัญพืช ซึ่งอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่ช่วยกระตุ้นให้ระบบไหลเวียนของเลือดดีขึ้น สามารถลำเลียงสารอาหารไปหล่อเลี้ยงร่างกายและผิวพรรณ โดยจะส่งผลให้ผิวพรรณมีความยืดหยุ่นดี พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นใต้ผิวหนังที่ช่วยทำให้ผิวของเราแลดูเปล่งปลั่งสดใสจากภายใน

สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ควรลดการรับประทานอาหารประเภททอด ซึ่งจะทำให้ไปชะลอการไหลเวียนของโลหิต และมีผลทำให้เลือดไปหล่อเลี้ยงผิวได้น้อยลง จนอาจจะทำให้ผิวเสียได้ 

8. ดื่มน้ำสะอาด

ตามหลักสุขอนามัยที่ดีผู้ชายควรดื่มน้ำให้ได้อย่างน้อยวันละ 3 ลิตร เพื่อสุขภาพที่ดีและช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งกระจ่างใส พร้อมกับทำให้ระบบต่างๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย เป็นการชดเชยน้ำที่สูญเสียผ่านทางการหายใจ เหงื่อ และการขับถ่าย 

9. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ ทำให้ผิวพรรณมีความเปล่งปลั่ง สดใส แลดูมีเลือดฝาด และยังช่วยขับของเสียหรือสารพิษออกจากร่างกายผ่านทางผิวหนัง ช่วยทำความสะอาดรูขุมขนที่อุดตันได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นระบบไหลเวียนของของเหลวภายในร่างกาย ทำให้เลือดไหลเวียนได้เร็วขึ้น

นอกจากนี้การออกกำลังกายยังเป็นการนำเอาออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย โดยออกซิเจนจะทำหน้าที่ช่วยต่อต้านการเกิดอนุมูลอิสระที่จะมีผลทำให้ผิวพรรณหมองคล้ำและเกิดริ้วรอย เราจึงควรหาเวลาออกกำลังอย่างน้อยวันละ 15-30 นาที จะช่วยให้เรามีสุขภาพกายและสุขภาพผิวที่ดีได้ 

10. นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ

หากเรานอนหลับพักผ่อนในแต่ละวันอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ผิวพรรณชะลอความร่วงโรยและไม่ทำให้ดูแก่กว่าวัย นี่เป็น วิธีทำให้หล่อขึ้น แบบง่ายๆ เลยทีเดียวเนื่องจากผิวจะมีกระบวนการซ่อมแซมตนเองตามธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูสภาพร่างกายและอวัยวะต่างๆ ในขณะที่เรากำลังนอนหลับนั่นเอง ซึ่งควรจะนอนหลับให้ได้วันละ 8-10 ชั่วโมง จึงจะเป็นการนอนที่มีประสิทธิภาพที่ทำให้ภายนอกดูดีตามไปด้วย

แต่งตัวเท่ๆ ผู้ชาย เครื่องใช้ส่วนตัว 7 อย่างที่ยิ่งใช้นาน ยิ่งดูเท่ ดูคูล

หากอยาก แต่งตัวเท่ๆ ผู้ชาย ของบางอย่างก็ต้องมีการบ่มเพาะประสบการณ์และความขลังกันเสียก่อน เช่น เหล้า เบียร์ ไวน์ พระเครื่อง แต่วันนี้เรามาพูดถึงเรื่องสิ่งของที่ผู้ชายส่วนใหญ่ต้องมี ซึ่งจะมีอะไรบ้างที่ยิ่งใช้นานยิ่งเท่ขึ้น ไปดูพร้อมๆ กันเลย

1. แจ็คเก็ตหนัง

แต่งตัวเท่ๆ ผู้ชาย ด้วยเสื้อหนังยิ่งนานยิ่งดี เพราะนอกจากจะให้ลุคที่ดูเป็นผู้ใหญ่แล้ว เสื้อหนังที่ถูกใส่เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน จะทำให้มีรอยยับย่นที่เข้ากับร่างกายของเราด้วย ของแบบนี้คนอื่นมาใส่รับรองไม่เข้าแน่นอน ว่ากันว่ายิ่งเสื้อแจ็คเก็ตหนังยิ่งมีรอยยับย่นมากแค่ไหนก็ยิ่งบอกเล่าเรื่องราวของคนที่ใส่เข้าไปอีกมากขึ้นเท่านั้นด้วย ดังนั้นซื้อมาใส่นานๆ กันสักตัว

2. เสื้อเชิ้ตลายตาราง

ตอนเราเป็นเด็กมักจะไม่ค่อยเห็นเพื่อนพ้องใส่เสื้อลายตารางกันสักเท่าไหร่นัก เพราะมันทำให้ดูเหมือนคนตัดอ้อย หรือเหมือนคนแก่ๆ แต่ถ้าย้อนกลับไปในประวัติศาสตร์ของโลกแฟชั่น ผู้ชายแทบทุกคนแทบไม่มีใครไม่เคยใส่เสื้อลายสก๊อตเลย ซึ่งถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์เหมือนกันที่ลวดลายของมันสามารถทำให้ความดูดีของเราพุ่งออกมาได้มากกว่าที่เคย แถมความพิเศษของเสื้อเชิ้ตลายสก๊อตคือมันถูกย้อมขึ้นมา ทำให้ยิ่งนานวันไปก็จะยิ่งซีดลง บ่งบอกเรื่องราวและความเก๋าของเราตั้งแต่ได้เสื้อตัวนี้ในวันแรกมาจนถึงวันนี้ได้เป็นอย่างดี

3. กางเกงยีนส์ผ้าดิบ

ผู้ชายแต่งตัวเท่ๆ ทุกคนรู้ดีว่ากางเกงยีนส์ยิ่งเก่ายิ่งเก๋า โดยยีนส์ผ้าดิบคือยีนส์ที่ยังไม่ผ่านการซักหลังจากที่ผลิตเสร็จเรียบร้อยแล้ว สีที่ได้ออกมาจะทำให้เป็นสีน้ำเงินหนักแน่นเป็นสี Indigo Blue แบบเดิมๆ นั่นทำให้กางเกงมีความยืดหยุ่นมากขึ้นและจะปรับเข้ารับกับรูปร่างช่วงล่างของเราด้วยเมื่อใส่ไปนาน ๆ แถมในอนาคตสีของมันก็จะเฟดออกมาเป็นแบบที่ไม่ซ้ำใครในโลกนี้แน่นอน ซึ่งนั่นทำให้เราเดินยืดได้เลยเพราะมีกางเกงยีนส์ตัวเดียวในโลกที่เป็นแบบของเราด้วย ของแบบนี้ไม่มีขายนะ อยากได้ต้องเฟดเองแบบใช้เวลานานๆ

4. รองเท้าผ้าใบ

ในส่วนของสนีกเกอร์ยุคนี้หลายคนอาจจะพยายามทำให้มันดูเหมือนรองเท้าคู่ใหม่ไว้ให้มากที่สุดในทุกๆ วันกัน แต่ขอบอกเลยว่ารองเท้าหน้าตาขาวสะอาดบางรุ่นก็มีความเท่และน่าหลงใหลในแบบที่แตกต่างกันออกไปได้อีก โดยเฉพาะเวลาที่มันเก่าขึ้นอย่างพวกรองเท้าในตำนานอย่าง Converse Chuck Taylor หรือ Vans Authentic, Old Skool ยิ่งวันเวลาผ่านไป รองเท้าผ้าใบผู้ชายความเก่าของมันก็เล่าเรื่องต่างๆ ในวันวานให้เราได้จดจำกันอย่างน่าประทับใจด้วย เรียกว่ารองเท้าแนวนี้ใส่แบบสะอาดๆ แล้วมันจะไม่เท่เลยล่ะ

5. กระเป๋าสตางค์หนัง

กระเป๋าสตางค์หนังที่ดีจะมีความนุ่มนิ่มมากขึ้นเมื่อเราใช้ไปนานๆ กระเป๋าสตางค์หนังก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คนไม่ค่อยให้ความน่าสนใจอะไรนัก เพราะตอนที่เป็นของใหม่มือหนึ่งที่หน้าตาเหมือนกันไปหมด แต่พอใช้ไปซักระยะคุณจะเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของมันจนหลงรักมันและไม่อยากจะเปลี่ยนแน่นอน

6. เสื้อแจ็คเก็ตแบบทรัคเกอร์

เสื้อแจ็คเก็ตผู้ชายเท่ๆ สำหรับคนที่ชอบแต่งกายแบบหลายๆ ชั้นหรือเล่นเลเยอร์ เสื้อแจ็คเก็ตยีนส์สไตล์ทรัคเกอร์ถือเป็นเครื่องแต่งกายอีกหนึ่งชิ้นที่เหมาะมากในแง่ของความเท่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใช้ไปนานๆ เพราะความเก่านั้นจะทำให้ขึ้นรอยยับย่นรอยเฟดต่างๆ จนทำให้เสื้อเข้ากับเราเองอย่างมีเอกลักษณ์ (เช่นเดียวกันกางเกงยีนส์) แบบไม่เหมือนใคร โดยเฉพาะกับอากาศร้อนๆ ในเมืองไทยด้วยแล้ว ดูน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเสื้อแจ็คเก็ตหนังอยู่หลายเท่าเลยทีเดียว

7. รองเท้าหนัง

อีกหนึ่งเครื่องแต่งกายที่ยิ่งผ่านไปนานเท่าไหร่ยิ่งดูดีก็คือ รองเท้าหนัง โดยหากพูดในแง่ว่าคุณซื้อของคุณภาพดีๆ คุณก็จะได้เห็นมันอยู่จนถึงวันที่เก่า แต่ถ้าหากซื้อของถูกๆ ก็ตัวใครตัวมันละกัน โดยรองเท้าหนังยิ่งใส่นานมันจะยิ่งรับกับรูปเท้า และก็เช่นเดียวกันกับหลายข้อก่อนหน้านี้ รอยยับของมันข้างนอกก็ดูเป็นสิ่งที่หารองเท้าคู่อื่นไม่สามารถลอกเลียนได้ เพราะมันเกิดจากการใส่ของเราเอง

กางเกงยีนส์ 10 แบรนด์ญี่ปุ่นสุดเท่ ที่ใครเห็นก็ต้องร้องกรี๊ด

กางเกงยีนส์ เชื่อว่าน้อยคนมากที่จะไม่มีกางเกงยีนส์ติดตู้เสื้อผ้าไว้อย่างน้อยสัก 1 ตัวเลย เพราะยีนส์เป็นแฟชั่นสามัญประจำตู้ และสามารถสวมใส่ได้ในทุกกระแสของแฟชั่น เป็นแฟชั่นที่ไม่มีวันตายอย่างแท้จริง ดังนั้นเราจึงสามารถพบเห็นยีนส์หลายๆ แบรนด์ผุดขึ้นมาเยอะแยะ ซึ่งยีนส์แบรนด์สำคัญๆ ของโลกอย่างของญี่ปุ่นก็เป็นอีกแหล่งสำคัญแหล่งหนึ่งที่ผลิตยีนส์ดีๆ และมีเอกลักษณ์ออกมาขาย ดังนั้น วันนี้เราจึงได้รวบรวม 10 แบรนด์ยีนส์จากญี่ปุ่นที่เท่ไม่หยอก มาให้คนรักยีนส์ทั้งหลายได้ส่องกัน เผื่อใครอยากซื้อก็ไปจัดได้เลย!

1. The Flat Head

แบรนด์ กางเกงยีนส์ชาย ก่อตั้งเมื่อปี 1996 โดย Masayoshi Kobayashi เป็นกางเกงยีนส์ที่มีกลิ่นอายอเมริกัน ความโดดเด่นของ The Flat head คือกระบวนการย้อมแบบ Rope dye ผลงานที่เด่นๆ ของแบรนด์นี้คือ เช่น The Flat Head 8002, The Flat Head 3002, รุ่น 3001-A หรือจะเป็นรุ่น The Flat Head 2111P ที่เป็นโปรเจ็กต์ร่วมกับร้าน Pronto อันโด่งดังในประเทศไทยของเราเอง

2. Pure Blue Jean

แบรนด์นี้ถือกำเนิดจากเมือง Okayama ในปี 1997 ถือเป็นแบรนด์ดัง และเป็นที่เป็นนิยมอย่างมาก ความโดดเด่นของยีนส์แบรนด์นี้ นอกจากการเฟดแล้ว นั่นก็คือความเรียบง่ายในรายละเอียดของตัวกางเกง 

ทั้งนี้ รุ่น Al-001 มียีนส์กระดุมผ้า 18.5 oz. มีความพิเศษตรงที่เป็นการย้อมมือ โดยไม่ผ่านสารสังเคราะห์ใดๆ โดยช่างฝีมือช่างชาวญี่ปุ่นจาก Tokushima ต่างกับยีนส์หลายๆ ยี่ห้ออื่นที่ย้อมเเบบสังเคราะห์เสียเป็นส่วนใหญ่

3. Kojima Genes

กางเกงยีนส์ผู้ชาย ยีนส์แบรนด์นี้มากจาก Kojima ที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นกำเนิดของการผลิตยีนส์ที่มีชื่อเสียงหลายมากมายหลายแบรนด์ เช่น Momotaro หรือ Pure blue japan แต่สำหรับ Kojima Genes นี้ มีความแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ นั้น เพราะตัวผ้าของ Kajima Genes ที่ใส่นิ่มสบาย รวมไปถึงการปักเย็บใช้เครื่องจักรโบราณ มีจุดเด่นที่การเก็บงานเรียบร้อยและการเย็บป้ายหนังแบบ Banzai loop ซึ่งคือการเย็บต่อเนื่องจากตัวยีนส์กับป้ายหนังรอบแผ่น     

4. BigJohn Jeans

กางเกงยีนส์แบรนด์ที่มีประวัติมานาน โดยเริ่มแรกนั้นคือบริษัทผลิตเสื้อผ้าธรรมดา เมื่อปี 1940 จนกระทั่งเมื่อปี 1960 Big John จึงได้ถือกำเนิดขึ้นและถือเป็นยีนส์เจ้าแรกที่ผลิตขึ้นจากประเทศญี่ปุ่น เอกลักษณ์ของแบนรด์นี้คือการเน้นที่ความขลัง ผ้าดิบๆ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะบอกความเป็น Big John อย่างแท้จริง

5. Japan Blue

กางเกงยีนส์ แบรนด์น้องใหม่สัญชาติญี่ปุ่น ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยความโดดเด่นของแบรนด์นี้ คือเน้นแบบการตัดเย็บแบบโมเดิร์นแล้วยังใส่ใจเรื่องความพิถีพิถันเป็นพิเศษในเรื่องของเนื้อผ้าด้วย

6. Studio D’artisan

แบรนด์นี้ก่อตั้งขึ้นปี 1979 โดย Shigeharu Tagaki จุดเด่นของแบรนด์นี้คือการนำลูกเล่นแปลกๆ มาใส่ในยีนส์ โดยผสมผสานความเป็นญี่ปุ่นจนเป็นเอกลักษณ์สไตล์ Japanese Vintage Denim ของตัวเอง อีกจุดขายของยีนส์ชอบผลิตโดยนำไอเดียจากเทศกาลต่างๆ เช่น ยีนส์รุ่นพิเศษที่ทำออกมาจากเทศกาลคริสต์มาส (Christmas Edition) หรือการผลิตยีนส์รุ่นครบรอบ 70 ปีของสงครามโลกครั้งที่ 2 (OKI-815 Champloo Jeans) เพื่อเป็นการรำลึกถึงเมือง Okinawa ที่โดนเล่นงานไปเละเทะในตอนนั้น

7. Edwin

พูดถึงยีนส์จากญี่ปุ่นก็คงไม่มีใครรู้จักแบรนด์นี้ เพราะมีมาแล้วถึง 40 ปี Edwin คือต้นตำรับคำว่ากางเกงยีนส์ของชาวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง Edwin โดย จุดเด่นของแบรนด์นี้คือ การออกแบบลูกเล่นใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และเป็นผู้นำในหลายๆ คอลเลกชันให้กับแฟชั่นยีนส์ในปัจจุบัน เช่น คอลเลกชัน Old Washed หรือคอลเลกชัน Stone Washed ขอบอกเลยว่าดาราฮอลลีวูดสุดดังอย่าง แบรด พิตต์ นั้นเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์นี้ด้วย

8. Samurai Jeans

Samurai jeans เป็นเเบรนด์ญี่ปุ่นจากเมืองโอซาก้า ก่อกำเนิดโดย Toru Nogami ในปี 1997 แบรนด์นี้จัดว่าเป็นอีกแบรนด์หนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก ทั้งในด้านของรายได้และฐานลูกค้าที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มากมายทั่วโลก เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของแบรนด์นี้ คือ ลูกเล่นและรายละเอียดต่างๆที่ได้รับความเอาใจใส่และพิถีพิถัน จนรู้เลยว่าลูกเล่นนี้ต้องเป็นของ Samurai jeans ลูกเล่นที่เด่นๆ เลยคือการนำเอาคาแรกเตอร์ต่างๆ ของซามูไรมาใส่ในตัวกางเกงยีนส์ หรือการใส่ลูกเล่นที่กระดุม เพราะในแต่ละรุ่นจะมีการออกแบบกระดุมแตกต่างกันไป เช่น ใช้ก้านต้นบอนไซหรือพระอาทิตย์เป็นลายกระดุม ส่วนการทอผ้าจะเป็นการทอแบบโบราณ เพื่อเน้นรายละเอียดในการตัดเย็บ ทำให้การเฟดจะสวยงามขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่สวมใส่

9. Momotaro Jeans

ยีนส์จากเมือง kojima จังหวัด Okayama เพิ่งถือกำเนิดขึ้นในปี 2006 โดยแบรนด์นี้ใช้กรรมวิธีการผลิตแบบดั้งเดิมซึ่งช้าและซับซ้อนกว่าเทคโนโลยีการผลิตในปัจจุบัน จุดเด่นของแบรนด์นี้ คือการใช้ Cotton 100% จากประเทศ Zimbabwe ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิตฝ้ายที่ดีที่สุดในโลก จุดด้อยมีเพียงอย่างเดียวคือ แบรนด์นี้เฟดยากกว่าแบรนด์อื่นๆ

10. Evisu

กางเกงยีนส์ขายาวแบรนด์เบอร์ 1 ของแดนปลาดิบคือ Evisu Jeans ซึ่งถือกำเนิดจาก Hidehiko Yamane เมื่อปี 1991 จุดเด่นคือโลโก้รูปนกนางนวล ที่ใช้ขั้นตอนการเพ้นท์ด้วยมือ โดยยีนส์แบรนด์นี้เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มผู้รักแฟชั่นสาย Street ทั่วๆ ไป และนี่คือเหตุผลที่ทำให้แบรนด์นี้เป็นที่ชื่นชอบของกลุ่มผู้รักกางเกงยีนส์ทั่วโลกนั่นเอง

อ้างอิง

Best Men’s Jeans For Fit, Comfort And Style : https://www.forbes.com/sites/forbes-personal-shopper/article/best-jeans-for-men/?sh=354026ce5f34

Skin care tips  for men : https://www.aad.org/public/everyday-care/skin-care-basics/care/skin-care-for-men