ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ทำได้จริงหรือไม่?

ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ทำได้จริงหรือไม่?

ไม่ออกกําลังกายผอมได้
ไม่ออกกําลังกายผอมได้ไหม ? รวมวิธีลดน้ำหนักโดยไม่ต้องออกกำลังกาย
May 31, 2023
ลดน้ำหนักภายใน 7 วัน
ลดน้ำหนักภายใน 7 วัน รวมวิธีที่ดีที่สุดเพื่อเริ่มต้นการลดน้ำหนัก
May 31, 2023
ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน

วิธีการ ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวิธียอดนิยม ด้วยความที่หลายคนเริ่มหันมาสนใจเรื่องการดูแลตนเอง และการดูแลสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร หรือแม้กระทั้งการมองหารีวิวแบรนด์ยาลดน้ำหนักที่ดีที่สุด ซึ่งในส่วนนี้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี แต่การลดน้ำหนักอาจจะต้องใช้เวลาในการลดสักเล็กน้อย เนื่องจากน้ำหนักตัวของคนเรามีส่วนประกอบอย่างมากมาย ทั้งกล้ามเนื้อ ไขมัน น้ำ และอาหารที่เรารับประทานเข้าไป ดังนั้นเราจำเป็นต้องลดไขมัน เพื่อให้ร่างกายลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ทั้งนี้การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็วนั้น อาจจะทำได้ในระยะสั้นอย่างเดียวเท่านั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปแล้วเรากลับมารับประทานอาหารเหมือนเดิม ก็ทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นมาได้ จนหลาย ๆ คนเรียกสภาวะนี้ว่า โยโย่เอฟเฟค เพราะฉะนั้นหากใครต้องการลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว จะต้องยอมรับสภาวะนี้ให้ได้

บทความนี้มีคุณจะได้ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ ทำไม่ถึงควรลดปริมาณน้ำตาลในอาหารลง และเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเข้าไปแทน,ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ด้วยการทำ IF ตัวช่วยลดน้ำหนักที่ดีที่สุด,รับประทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่ได้ทำให้อ้วนเสมอไป, ไขข้อสงสัย ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ได้ผลเร็วที่สุด และออกกำลังกายทุกวัน ช่วยเพิ่มลดน้ำหนักได้ดีที่สุด


ลดปริมาณน้ำตาลในอาหารลง และเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเข้าไปแทน

ลดปริมาณน้ำตาลในอาหารลง และเพิ่มคาร์โบไฮเดรตเข้าไปแทน

การรับประทานอาหารของหลาย ๆ คนมักจะติดหวาน แม้ว่าจะเป็นอาหารคาวก็มักเติมน้ำตาลเข้าไป ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า สูตรลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ไม่ออกกำลังกาย การบริโภคน้ำตาลหรือการเพิ่มน้ำตาลเข้าไปในอาหารทุกจานนั้น จะก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเป็นโรคอ้วนได้อย่างไม่รู้ตัว และอาหารหลาย ๆ ชนิดในปัจจุบัน จะมีประสิทธิภาพย่อยกลูโคสได้อย่างรวดเร็ว และในส่วนนี้เองจะก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ง่าย เนื่องจากร่างกายได้รับกลูโคสมากเกินไป และมีส่วนทำให้เกิดการสะสมของไขมันที่มากยิ่งขึ้น

ดังนั้นหากใครต้องการรับประทานอาหาร ที่มีส่วนช่วยลดกลูโคสได้มากยิ่งขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแปรรูป และอาหารที่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบทุกชนิด และให้เปลี่ยนมาเลือกรับประทานอาหารที่ส่งผลดีต่อสุขภาพแทน อย่างเช่น ข้าวโฮลเกรน ขนมปัง ผลไม้ ถั่ว เมล็ดพืช ชาสมุนไพร สมูทตึ้กับน้ำ หรือนมแทนน้ำผลไม้ โดยอาหารเหล่านี้จะถือเป็นอาหารที่ไม่มีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบ หรือมีน้ำตาลอยู่ในปริมาณต่ำ เพื่อช่วยให้ร่างกายของเราไม่ต้องรับน้ำตาลมากเกินไป เพื่อเข้ามาส่งผลเสียต่อร่างกายได้นั่นเอง


ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ด้วยการทำ IF ตัวช่วยลดน้ำหนักที่ดีที่สุด

ลดน้ำหนัก 10 กิโล 1 เดือน ด้วยการทำ IF

ทุกคนรู้หรือไม่ว่า การลดน้ำหนักภายใน 1 เดือนสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยการทำ IF ซึ่งจะเป็นรูปแบบการไดเอทที่ต้องอดอาหารในระยะสั้น หรือการเลือกรับประทานอาหารภายในเวลาที่กำหนด อย่างเช่น อดอาหารเป็นเวลา 16 ชั่วโมง และรับประทานอาหารภายในเวลา 8 ชั่วโมง ซึ่งจะถือเป็นการอดอาหารที่ไม่โหดเท่าไหร่นัก

เพราะในระยะเวลา 8 ชั่วโมง เราสามารถรับประทานอาหารได้มากเพียงพอต่อที่ร่างกายต้องการ เพียงแต่เราจะต้องใจแข็ง ไม่รับประทานขนมจุกจิก สามารถดื่มน้ำเปล่า ชา หรือกาแฟที่ไม่ผสมนมและน้ำตาลได้เท่านั้น แต่รับประกันได้เลยว่าการไดเอทด้วยวิธีนี้ จะช่วยลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน

ทั้งนี้ได้มีผลการศึกษาออกมาว่า การไดเอทด้วยวิธีนี้ติดต่อกันเป็นระยะเวลาประมาณ 24 สัปดาห์ หรือ 6 เดือน จะช่วยให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับกลุ่มคนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐาน เนื่องจากการรับประทานอาหารด้วยรูปแบบนี้จะมีการกำหนดระยะเวลาในการรับประทานอาหารอย่างชัดเจน แถมยังช่วยให้เราเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารมากเพียงพอ และไม่ให้เกิดความหิวระหว่างช่วงที่อดอาหารนั่นเอง


รับประทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่ได้ทำให้อ้วนเสมอไป

รับประทานอาหารครบทุกมื้อ ไม่ได้ทำให้อ้วน

หากใครต้องการลดน้ำหนัก 10 กิโล ใช้เวลา เท่าไหร่ ต้องบอกเลยว่า จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการลดน้ำหนักของเรา ซึ่งหลายคนอาจจะมองว่า การลดน้ำหนักก็ควรลดมื้อในการรับประทานอาหารด้วยเช่นกัน เพราะยิ่งเรารับประทานอาหารมากเท่าไหร่ ก็จะทำให้น้ำหนักขึ้นมากขึ้นเท่านั้น แต่หากเราเลือกรับประทานเพียงวันละ 1-2 มื้อ จะเป็นตัวช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี

ซึ่งในส่วนนี้จะต้องบอกเลยว่า การลดน้ำหนักด้วยการรับประทานอาหารเพียงวันละ 1-2 มื้อ จะช่วยลดน้ำหนักได้ก็จริง แต่จะเป็นเพียงการลดน้ำหนักระยะสั้นเท่าไหร่ เพราะเมื่อไหร่ที่เราพึงพอใจกับน้ำหนักของตนเองแล้ว และกลับมารับประทานอาหาร 3 มื้อเหมือนเดิม จะทำให้น้ำหนักเด้งกลับมาได้เท่าเดิม หรือมากกว่าเดิม ซึ่งหลาย ๆ คนจะเรียกว่าโยโย่เอฟเฟค และเมื่อร่างกายเราเกิดภาวะโยโย่เอฟเฟคแล้ว หากต้องการกลับมาลดน้ำหนักอีกครั้ง จะทำได้ยากกว่ารอบแรก

ทั้งนี้การรับประทานอาหารมื้อที่สำคัญมากที่สุด คือ มื้อเช้านั่นเอง เพราะมื้อเช้าจะเป็นมื้ออาหารที่เราไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมื้อเช้าจะเข้าไปเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกาย ให้เรามีพลังงานไปใช้ดำเนินชีวิตทั้งวัน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้ดีขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่หากใครที่บอกว่าให้อดอาหารมื้อเย็นแทน ซึ่งอาหารมื้อเย็นจะเป็นมื้อที่สำคัญอีกเช่นกัน แต่ควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย และไม่หนักมากเกินไป

อย่างเช่น การรับประทานผักและผลไม้ หรือการรับประทานอาหารคลีน ที่เน้นผักและผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น ลดคอเลสเตอรอล และลดความดันโลหิตได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่านอกจากจะช่วยควบคุมน้ำหนักได้มากกว่าเดิมแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยป้องกันปัญหาสุขภาพได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย


ไขข้อสงสัย ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ได้ผลเร็วที่สุด

ลดน้ำหนักอย่างไร ให้ได้ผลเร็วที่สุด

การลดน้ำหนักจะถือเป็นสิ่งที่ง่าย แต่ก็ให้ความท้าทายได้ในเวลาเดียวกัน เพราะนอกจากเราจะต้องใจแข็งเพื่อรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ในปริมาณเพียงพอกับที่ร่างกายต้องการ ไม่เยอะหรือน้อยจนเกินไปแล้ว การออกกำลังกายจะเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะการออกกำลังกายจะเป็นตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน และไขมันในร่างกายของเราได้เป็นอย่างดี ช่วยให้การลดน้ำหนักมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

แต่หากพูดถึงการออกกำลังกายแล้ว หลาย ๆ คนก็อาจจะไม่ถนัดเท่าไหร่นัก หรืออาจจะไม่มีเวลาว่างมากเพียงพอต่อการออกกำลังกาย ส่งผลให้การลดน้ำหนักจะขึ้นอยู่กับการควบคุมอาหารอย่างเดียวเท่านั้น และการควบคุมอาหารให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด จะมีวิธีการควบคุมอยู่หลากหลายวิธีด้วยกัน เพราะฉะนั้นไปดูกันเลยว่า สูตรลดน้ำหนัก 3 วัน 5 กิโล ที่ได้ผลมากที่สุด จะมีสูตรลดอย่างไรบ้าง

  • Hypocaloric Diet: ถือเป็นสูตรการลดน้ำหนักแบบจำกัดปริมาณแคลอรี โดยจะเป็นการเลือกรับประทานเฉพาะอาหารที่มีแคลอรีต่ำ แต่หากใครที่ยังไม่รู้ว่าการรับประทานอาหารเท่าไหร่ถึงจะเท่ากับแคลอรีต่ำ ควรรับประทานอาหารประมาณ 800 แคลอรี เพราะหากเราเลือกรับประทานอาหารแบบจำกัดปริมาณแคลอรี ไม่ให้ร่างกายได้รับแคลอรีในปริมาณมากเกินไป และเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลอรีต่ำ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้มากกว่าเดิม
  • Plant-Based Diet: จะเป็นสูตรการลดน้ำหนักแบบเน้นการรับประทานพืชผักผลไม้เป็นหลัก เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการลดน้ำหนักได้มากกว่าเดิม เนื่องจากผักผลไม้จะมีแคลอรีต่ำเป็นอย่างมากหากเทียบกับอาหารชนิดอื่น ๆ และถึงแม้ว่าเราจะรับประทานผักมากเท่าไหร่ ก็ไม่ทำให้เรารู้สึกผิดหรือรู้สึกไม่ดีเมื่อรับประทานเข้าไปอย่างแน่นอน และนอกจากการรับประทานผักผลไม้จะช่วยลดน้ำหนักให้แก่ทุกคนได้เป็นอย่างดีแล้ว การรับประทานผักและผลไม้จำนวนมากเป็นประจำ ยังมีส่วนช่วยเพิ่มวิตามิน และสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายได้อีกด้วย
  • Low-card Diet: สำหรับวิธีการรับประทานอาหารแบบ Low-card Diet จะเป็นวิธีการรับประทานแบบจำกัดปริมาณคาร์โบไฮเดรตลง และเน้นการรับประทานอาหารประเภทโปรตีน และไขมันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะหารเราเลือกรับประทานคาร์โบไฮเดรตเข้าไปเยอะ ๆ อินซูลินจะถูกปล่อยออกมา และส่งน้ำตาลกลูโคสจากคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่เซลล์ในร่างกายของเรา เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงาน แต่หากเราเลือกรับประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตมากเกินไป อาจจะทำให้มีกลูโคสส่วนเกินไปจบลงที่เซลล์ไขมันของเราได้ ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตต่ำ จะทำให้ร่างกายสามารถเผาผลาญไขมันแทนน้ำตาลได้ และจำช่วยให้น้ำหนักของเราลดได้นั่นเอง
  • Paleo Diet: หรือที่หลาย ๆ คนเรียกว่า Paleolithic Diet ซึ่ง Paleolithic จะแปลว่ายุคหินเก่านั่นเอง ดังนั้นการเลือกรับประทานอาหารสูตรนี้ จะหมายถึงการรับประทานอาหารแบบยุคโบราณ ด้วยการรับประทานอาหารแบบการลดคาร์บลง และนอกจากนี้การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตแล้ว จะเน้นการรับประทานโปรตีน ซึ่งการรับประทานโปรตีนจะเลือกเป็นโปรตีนจากพืช หรือโปรตีนจากสัตว์ก็ได้ รวมทั้งการรับประทานผัก ถั่ว เมล็ดพืช สมุนไพร และไขมันดีด้วยเช่นกัน เพราะการรับประทานอาหารด้วยสูตรนี้ จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยลดน้ำหนักได้ดีเลยทีเดียว
  • Low-Fat Diet: และสูตรการรับประทานอาหารสูตรสุดท้าย ที่จะช่วยลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี คือ การรับประทานอาหารแบบ Low-Fat Diet หรือเรียกง่าย ๆ ว่าเป็นวิธีเลือกรับประทานอาหารไขมันต่ำ ซึ่งวิธีการลดปริมาณไขมันในร่างกาย จะเป็นตัวช่วยลดแคลอรีได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ร่างกายจะเก็บแคลอรีส่วนเกินเอาไว้ในรูปแบบไขมันนั่นเอง ดังนั้นหากเราเลือกลดปริมาณไขมัน หรือรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ก็จะเป็นส่วนช่วยลดปริมาณแคลอรี และจะทำให้น้ำหนักลดตามได้นั่นเอง
  • Blood Type Diet :  ทำได้โดยพิจารณาจากกรุ๊ปเลือดของแต่ละบุคคล แล้วเลือกการรับประทานให้เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือดนั้น  เนื่องจากแต่ละกรุ๊ปเลือดจะมีความแตกต่างกันในเรื่องของการดูดซึมและการย่อยอาหาร รวมถึงการแตกต่างของความต้องการพลังงานและอาหารที่เหมาะสมสำหรับแต่ละกรุ๊ปเลือด ซึ่งวิธีการลดน้ำหนักตามกรุ๊ปเลือดนั้นเป็นที่นิยมในหมู่ของคนรักสุขภาพ

ออกกำลังกายทุกวัน ช่วยเพิ่มลดน้ำหนักได้ดีที่สุด

ออกกำลังกายทุกวัน ช่วยเพิ่มลดน้ำหนัก

อีกหนึ่งตัวช่วยการลดน้ำหนักที่ดีขึ้นกว่าเดิม คือ การออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เพราะการออกกำลังกายถือเป็นตัวช่วยเร่งการเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ทุกคนสามารถเผาผลาญไขมัน และพลังงานส่วนเกินในร่างกายให้หมดไป ทำให้ไม่เกินเป็นพลังงานและไขมันสะสมในร่างกายได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และการออกกำลังกายในปัจจุบัน ยังสามารถเลือกวิธีการออกกำลังกายได้หลากหลายวิธีด้วยกัน

ไม่ว่าจะเป็น คาร์ดิโอ เวทเทรนนิ่ง หรือบอดี้เวท ที่จะเป็นวิธีการออกกำลังกายยอดนิยมเลยก็ว่าได้ เนื่องจากการออกกำลังกายด้วยวิธีเหล่านี้ นอกจากจะเป็นตัวช่วยลดน้ำหนัก และเร่งการเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้นแล้ว ยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายของเราแข็งแรงได้มากกว่าเดิมอีกด้วย รับรองได้เลยว่าหากใครลดน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหาร ไปพร้อม ๆ การออกกำลังกาย จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว


ลดน้ำหนักได้ง่าย ๆ ด้วยการควบคุมอาหารในทุก ๆ มื้อ เพราะการควบคุมอาหารถือเป็นหัวใจสำคัญต่อการลดน้ำหนัก เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีกากใยสูง เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้ร่างกายแข็งแรง และลดน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ควรควบคุมอาหารควบคู่ไปกับการออกกำลังกาย ที่จะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน และไขมันส่วนเกินในร่างกายได้ดีที่สุด รับรองได้เลยว่าทุกคนจะลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพแน่นอน


อ้างอิง


Warning: Trying to access array offset on value of type null in /srv/users/cordy2/apps/bkkmen/public/wp-content/themes/betheme 20 7 7/includes/content-single.php on line 281
Bumrungrut Pothisakda
Bumrungrut Pothisakda
พนักงานออฟฟิศและโปรแกรมเมอร์ฟรีแลนซ์ ผู้ชื่นชอบด้านแฟชั่น สุขภาพและการดูแลสุขภาพ เริ่มเขียนบทความและสร้างเว็บไซต์เพราะอยากแบ่งปันความชื่นชอบและเทคนิคต่าง ๆ ในการดูแลตัวเองสำหรับผู้ชาย