ในยุคปัจจุบัน การดูแลสุขภาพผิวไม่ใช่เรื่องที่จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง การทาครีมกันแดดจึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรให้ความสำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ชายที่อาจมองข้ามการดูแลผิวในประเด็นนี้ รังสี UV ที่มาจากแสงแดดไม่เพียงแต่ทำร้ายผิวหนังให้คล้ำเสียและเกิดฝ้า กระ แต่มันยังสามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนังได้อีกด้วย ดังนั้นสาเหตุ ทำไมต้องทาครีมกันแดด ? ก็เพราะการทาครีมกันแดดจึงไม่ได้เป็นเพียงการป้องกันผิวจากการถูกทำร้ายเท่านั้น แต่ยังเป็นการรักษาความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของผิวเอาไว้ การทาครีมกันแดดทุกวันจึงถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในการดูแลสุขภาพผิวในระยะยาว
ครีมกันแดดมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราต้องเผชิญกับแสงแดดที่มีรังสี UV ที่เป็นอันตรายต่อผิวหนัง รังสี UV แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก คือ รังสี UVA และ UVB ซึ่งทั้งสองชนิดนี้สามารถทำให้เกิดความเสียหายต่อผิวหนังได้โดยตรง จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก (WHO) รังสี UV เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดมะเร็งผิวหนัง โดยผู้ที่ไม่ทาครีมกันแดดมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งผิวหนังสูงขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับผู้ที่ใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ
ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 สามารถป้องกันรังสี UVB ได้ประมาณ 97% ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดผิวไหม้และความเสียหายของผิวหนังในระยะยาว แต่ถึงแม้ว่าคุณจะใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง ก็ยังคงต้องทาซ้ำทุกๆ 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่อคุณมีเหงื่อออกหรือหลังจากการว่ายน้ำ
สถิติยังแสดงให้เห็นว่า 80% ของการเสื่อมสภาพของผิวเกิดจากการได้รับรังสี UV มากเกินไป ทำให้การทาครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นในการรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์และป้องกันปัญหาผิวในอนาคต ไม่ว่าคุณจะอยู่กลางแจ้งหรือในที่ร่ม ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่ควรใช้เป็นประจำเพื่อให้ผิวของคุณได้รับการปกป้องอย่างเต็มที่จากรังสีอันตรายนี้
รังสี UV จากแสงแดดมีผลกระทบต่อผิวหนังอย่างรุนแรง รังสี UV แบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก คือ UVA และ UVB ซึ่งแต่ละชนิดมีผลกระทบต่อผิวในลักษณะที่แตกต่างกัน รังสี UVA เป็นตัวการหลักที่ทำให้เกิดริ้วรอยและทำให้ผิวแก่ก่อนวัย เพราะมันสามารถทะลุถึงชั้นหนังแท้ของผิวหนังได้ ส่วนรังสี UVB เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดผิวไหม้แดด ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์ผิวหนังและเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง
การไม่ทาครีมกันแดดอาจทำให้ผิวหนังได้รับผลกระทบจากรังสี UV โดยตรง ส่งผลให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ เช่น ฝ้า กระ ซึ่งเป็นปัญหาผิวที่มักพบได้บ่อย และยังเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนังได้ถึง 70% ตามข้อมูลจากมูลนิธิโรคมะเร็งผิวหนังของสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ การได้รับรังสี UV มากเกินไปยังทำให้คอลลาเจนในผิวถูกทำลาย ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยได้เร็วยิ่งขึ้น
รังสี UV เป็นสาเหตุหลักในการทำให้ผิวเหี่ยวย่นและแก่ก่อนวัย เนื่องจากรังสี UVA สามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกถึงชั้นหนังแท้ ทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นและเต่งตึง ถูกทำลายลง เมื่อผิวสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน จะเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยของผิว ส่งผลให้ผิวดูแก่กว่าวัย จากข้อมูลทางการแพทย์พบว่า 80-90% ของสัญญาณการเสื่อมสภาพของผิวมาจากการได้รับรังสี UV ที่มากเกินไป
การใช้ครีมกันแดดทุกวันเป็นสิ่งจำเป็นในการชะลอความแก่ของผิว โดยครีมกันแดดจะช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV เข้าทำลายคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนัง นอกจากนี้ยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดจุดด่างดำ ฝ้า และกระที่เกิดจากการสัมผัสกับแสงแดดเป็นเวลานาน การเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไปและทาอย่างสม่ำเสมอสามารถลดโอกาสในการเกิดริ้วรอยได้ถึง 24% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ใช้ครีมกันแดดเลย
คอลลาเจนเป็นโปรตีนที่มีบทบาทสำคัญในการคงความยืดหยุ่นและความกระชับของผิวหนัง เป็นส่วนประกอบหลักของเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ช่วยให้ผิวแข็งแรงและเต่งตึง เมื่อคอลลาเจนในผิวหนังลดลง ผิวจะเริ่มมีริ้วรอย หย่อนคล้อย และสูญเสียความชุ่มชื้น ประโยชน์ผู้ชายกินคอลลาเจนและการรักษาระดับคอลลาเจนในผิวจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์และสุขภาพดี
รังสี UV โดยเฉพาะ UVA สามารถทะลุเข้าไปในชั้นผิวหนังลึกถึงชั้นหนังแท้ (Dermis) ซึ่งเป็นที่อยู่ของคอลลาเจน เมื่อคอลลาเจนสัมผัสกับรังสี UV มันจะถูกทำลายผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “โฟโตไลซิส” ซึ่งทำให้โครงสร้างของคอลลาเจนอ่อนแอลงและแตกตัวได้ง่าย เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหนังจะสูญเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอย
การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงและมีส่วนผสมของสารกันแดดที่ป้องกันรังสี UVA และ UVB จะช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV เข้ามาทำลายคอลลาเจนในผิวได้ โดยผลการศึกษาพบว่าการใช้ครีมกันแดดเป็นประจำสามารถลดการทำลายคอลลาเจนได้ถึง 50% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ใช้ครีมกันแดด นอกจากการป้องกันริ้วรอยแล้ว การใช้ครีมกันแดดยังช่วยรักษาความเต่งตึงของผิวให้คงอยู่ได้นานขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาผิวให้ดูอ่อนเยาว์อย่างยั่งยืน
แสงแดดเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้ผิวเกิดการคล้ำเสียและเกิดรอยด่างดำ รังสี UV โดยเฉพาะ UVB สามารถกระตุ้นการผลิตเมลานินในผิว ซึ่งเป็นสารสีที่ทำให้ผิวของเราคล้ำขึ้น หากผิวของคุณได้รับรังสี UV ในปริมาณมากเกินไปโดยไม่มีการป้องกัน อาจทำให้เกิดรอยด่างดำ ฝ้า กระ หรือจุดด่างดำที่ไม่พึงประสงค์ได้ การทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 หรือสูงกว่าเป็นประจำจะช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UVB เข้าสู่ชั้นผิวหนัง และลดการผลิตเมลานินที่เป็นสาเหตุของผิวคล้ำ การใช้ครีมกันแดดจึงเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการเกิดผิวคล้ำและรอยด่างดำอย่างยาวนาน
หากผิวของคุณได้รับความเสียหายจากการโดนแดดเป็นเวลานาน การฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียจะต้องใช้เวลาและการดูแลที่เหมาะสม ครีมกันแดดจะไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันผิวจากความเสียหายเพิ่มเติม แต่ยังช่วยให้ผิวฟื้นตัวได้เร็วขึ้น การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารบำรุง เช่น วิตามิน C และ E ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและช่วยลดเลือนรอยด่างดำที่เกิดจากแสงแดด ผู้ชายกับการกินโปรตีนก็สำคัญเพราะช่วยในการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย รวมถึงผิวหนังด้วย การรับประทานโปรตีนในปริมาณที่เพียงพอสามารถช่วยให้ผิวดูสดใส แข็งแรง และลดริ้วรอยได้ นอกจากนี้ การดื่มน้ำมากๆ และการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ทำให้ผิวที่คล้ำเสียจากการโดนแดดกลับมาแข็งแรงและกระจ่างใสอีกครั้ง
การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่มีความสำคัญสำหรับผู้ชายทุกประเภทผิว ไม่ว่าจะมีผิวมันหรือผิวแห้งก็ตาม รังสี UV มีผลกระทบต่อผิวหนังของทุกคน โดยเฉพาะในผู้ที่มีผิวมันซึ่งอาจมีความเสี่ยงต่อการเกิดสิวจากการอุดตันของรูขุมขนหากไม่ใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม ในขณะที่ผู้ที่มีผิวแห้งอาจเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอยและผิวหนังหยาบกร้านมากขึ้นหากไม่ได้รับการปกป้องจากแสงแดด การใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสมจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ และยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นและความสมดุลของผิวให้คงอยู่
สำหรับผู้ชายที่มีผิวมัน ควรเลือกใช้ครีมกันแดดสูตรเจลหรือสูตรที่ไม่มีน้ำมัน (oil-free) ซึ่งจะช่วยควบคุมความมันและลดการอุดตันของรูขุมขน ครีมกันแดดที่มีเนื้อบางเบาและซึมซาบเร็วจะทำให้รู้สึกสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ตัวอย่างครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวมัน เช่น Neutrogena Hydro Boost Water Gel SPF 50 ซึ่งเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่เพิ่มความมัน
สำหรับผู้ชายที่มีผิวแห้ง ควรเลือกใช้ครีมกันแดดที่มีส่วนผสมของมอยส์เจอร์ไรเซอร์และสารบำรุง เช่น ไฮยาลูรอนิคแอซิด หรือวิตามิน E ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและลดความแห้งกร้าน ตัวอย่างครีมกันแดดที่เหมาะสำหรับผิวแห้ง เช่น La Roche-Posay Anthelios Melt-in Milk SPF 60 ซึ่งเป็นสูตรที่ให้ความชุ่มชื้นสูงและปกป้องผิวจากรังสี UV ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะสมกับสภาพผิวของตนเองจะช่วยให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยังช่วยรักษาสุขภาพผิวให้แข็งแรง ไม่ว่าผิวของคุณจะเป็นประเภทใด การทาครีมกันแดดทุกวันก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม
การดูแลผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดีเป็นสิ่งที่ผู้ชายทุกคนควรให้ความสำคัญ จะเห็นแล้วว่า ทำไมต้องทาครีมกันแดด ? เพราะการทาครีมกันแดดไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันผิวจากรังสี UV และความเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนัง แต่ยังช่วยรักษาคอลลาเจนในผิว ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และมีความยืดหยุ่น การเริ่มต้นทาครีมกันแดดเป็นกิจวัตรประจำวันไม่ใช่เรื่องยาก แต่เป็นสิ่งที่สามารถช่วยป้องกันปัญหาผิวในระยะยาวได้ ดังนั้นอย่ารอช้า ให้การทาครีมกันแดดเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลตัวเองในทุกๆ วัน เพื่อให้ผิวของคุณคงความสุขภาพดีและดูดีได้ตลอดไป
1. ผู้ชายจำเป็นต้องทาครีมกันแดดทุกวันหรือไม่?
ใช่ การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับผู้ชายเช่นเดียวกับผู้หญิง เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่สามารถทำลายผิวหนังและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง การทาครีมกันแดดทุกวันจึงช่วยลดความเสี่ยงนี้ได้
2. ครีมกันแดดช่วยรักษาคอลลาเจนในผิวได้อย่างไร?
รังสี UV สามารถทำลายคอลลาเจนในผิวหนัง ทำให้ผิวเหี่ยวย่นและแก่ก่อนวัย การทาครีมกันแดดจะช่วยปกป้องผิวจากรังสีเหล่านี้ ช่วยรักษาคอลลาเจนและความยืดหยุ่นของผิวให้คงอยู่
3. ผู้ชายผิวมันควรเลือกใช้ครีมกันแดดแบบไหน?
ผู้ชายที่มีผิวมันควรเลือกใช้ครีมกันแดดสูตรที่ไม่มีน้ำมัน (oil-free) หรือสูตรเจลที่มีความเบาสบาย เพื่อหลีกเลี่ยงการอุดตันของรูขุมขนและลดความมันบนผิวหน้า
4. ทาครีมกันแดดเพียงครั้งเดียวในตอนเช้าพอหรือไม่?
ไม่พอ การทาครีมกันแดดควรทำการทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมง โดยเฉพาะเมื่ออยู่กลางแจ้งเป็นเวลานาน หรือหลังการว่ายน้ำและเหงื่อออก เพื่อให้การปกป้องผิวมีประสิทธิภาพสูงสุด